22/6/54

ทดสอบ VM80 ต่อขยายความยาว Sensor ยาว 200 เมตร

ตามที่ได้สัญญาไว้นะครับ ว่าจะทำการทดสอบการต่อขยายความยาวสาย Sensor ของ VM80-HT โดยการใช้สาย LAN ยาว 200 เมตรซึ่งเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับเครื่อง Hygrometer ที่วัดความชื้นหลายต่อหลายรุ่นของหลายยี่ห้อ -- วันนี้ฤกษ์งามที่ดี -- คุณธรรมพร ตราด สั่ง VM80 ที่ต้องใช้ความยาวสายถึง 80 เมตร ซึ่งเป็นสายที่ยาวมากไม่ใช่น้อย ซึ่งหลายๆท่านที่จำเป็นต้องใช้สาย Sensor ยาวมากๆจะเป็นกังวลเรื่องของความถูกต้อง ค่าความเพี้ยน อย่างแน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองแล้วไม่เป็นกังวลในเรื่องเหล่านี้เลย เพราะว่าได้ต่อความยาวระดับ 30 เมตรได้โดยแทบจะไม่ต้อง Calibrate ค่าที่วัดได้ หรือต้อง Calibrater ก็ทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นที่ระดับความยาวที่ 80 เมตรจึงไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน ผมจึงจะไม่รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใดเลย

แต่เนื่องจากว่าเคยรับปากว่าจะทำการทดสอบการต่อขยายที่ระดับ 200 เมตร ซึ่งหากว่าเป็นเครื่องรุ่นอื่นๆ ยี่ห้ออื่นๆนั้นเท่าที่ผมได้ทราบมาจะทำได้แค่เพียง 100 เมตรเท่านั้น แต่ในส่วนตัวผมจะทำการทดสอบ VM80 ที่ความยาวมากถึง 200 เมตรเลย เพื่อเกิดความ Sure จึงทดสอบกันอย่างหนักหน่วง ใช้สายยาวกว่ายี่ห้ออื่นเป็นเท่าตัวเลย เพื่อดูผลจะออกมาเป็นอย่างไร ค่าอุณหภูมิและความชื้นที่วัดได้จะเป็นอย่างไรบ้าง หรือจะมีข้อจำกัดอะไรอย่างไรหรือไม่ เรามาดู Clip ที่ถ่ายไว้กันดีกว่านะครับว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง




หากว่าภาพไม่ขึ้น กรุณา Link ไปที่ http://www.youtube.com/watch?v=Un3HEC-TXkk

จากการทดสอบจริง ค่าที่อ่านได้มีความถูกต้องทั้ง อุณหภูมิและความชื้น โดยเฉพาะค่าความชื้น Calibrate ค่าไม่ถึง 4 Rh% เท่านั้นครับ (จากการทดสอบ Calibrate ค่าเพีย 3.8 Rh% แต่ให้ไว้กว้างขึ้นอีกเล็กน้อยเป็นที่ 4 Rh% ซึ่ง Hygrostat รุ่น VM80 นี้สามารถรองรับการ Calibrate ความชื้นได้มากถึง 50 Rh% ซึ่งหากคำนวนย้อนกลับเพื่อจะหาความยาวสูงสุดของสาย LAN ที่จะต้อง calibrate ค่าแบบเต็มความสามารถคือ 50 Rh% ก็คำนวณได้ว่าสามารถใช้สาย LAN ได้ยาวถึง 2,500 เมตรเลย สูตร ((200/4)*50) ดังนั้นเมื่อเทียบค่าความชื้นที่ Calibrate กับความยาวถึง 2,500 เมตรแล้วถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากๆๆ-เมื่อเทียบกับความยาวขนาดนี้ ซึ่งเป็นที่รู้วกันว่าในวงการบ้านนกนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความชื้นมากพอสมควรเนื่องจาก ความชื้นจะทำให้รังไม่หลุดล่วง ไม่แตกหักง่าย ช่วยให้การเก็บรังทำได้สะดวก ดังนั้น Hygrostat ที่ดีจะต้องวัดค่าความชื้นได้อย่างถูกต้อง และเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก

ดังนั้นสำหรับเพื่อนๆที่จำเป็นต้องใช้ Hygrostat ที่ต้องใช้ความยาวสายมากๆ จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องความเพี้ยนของทั้งอุณหภูมิและความชื้น ซึ่งเรื่องนี้ผมได้ทดสอบตามที่ได้สัญญาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นที่เบาใจ สบายใจได้กับผลรับที่ได้ สำหรับคนที่ต้องใช้สาย LAN ยาวมาก เมื่อทดสอบที่ความยาว 200 เมตร ความชื้นยังสามารถให้ค่าถูกต้องมากขนาดนี้ หากว่าใช้ความยาวสาย LAN สั้นๆเพียง 15-20 เมตร ค่าความถูกต้องจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงกันเลย ส่วนค่าของอุณหภูมิ ก็ต้อง Calibrate เช่นกันครับ แต่ค่าที่วัดได้ก็ยังถูกต้องเชื่อถือได้ ตามที่เราได้เห็นกันใน Clip แล้วนะครับ

อีกประการหนึ่ง VM80 ตัวนี้จะแสดงข้อมูล อุณหภูมิ ความชื้น ที่จอ LED แบบ Realtime เลยนะครับ (ประมาณ 8 ครั้งต่อ 1 วินาที ใช่ครับอ่านไม่ผิด 8 ครั้งต่อวินาที) ไม่เหมือนกับบางรุ่นที่ดูว่าค่าอุณหภูมิ ความชื้น ที่วัดได้นั้น นิ่งดี แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพราะโปรแกรมการสั่งการให้ไปอ่านค่าที่หัว Probe ตามเวลาที่ตั้งไว้ เช่นกำหนดเวลาไว้ 1นาที หรือ3 นาทีจึงให้ไปอ่านค่าเสียครั้งหนึ่ง ค่าที่ปรากฎบนหน้าจอจึงทำให้ดูเสมือนว่าค่าที่วัดได้นั้นดูนิ่ง ดูเสถียรดี แต่ในข้อเท็จจริงๆแล้วเป็นอย่างที่ผมได้กล่าวไว้แล้วในเบื่องต้น อีกประเด็นหนึ่งก็คือว่าหัว sensor มีการตอบสนองต่ออุณหภูมิ ความชื้นช้าเป็นเต่า ก็จะทำให้ดูเหมือนว่าอุณหภูมิความชื้นที่วัดได้นั้นนิ่งดี ท่านจะคิดอย่างไรกับ Hygrostat ทั้ง 2 กรณีที่ได้กล่าวมาแล้ว ค่าความเสถียรที่เห็นบนหน้าจอ อาจจะไม่ใช่อย่างที่ท่านเคยคิดไว้ ทดลองตรวจสอบกันให้ดีว่าค่าอุณหภูมิความชื้น ที่ว่านิ่งๆนั้นเป็นเพราะอะไรด้วยก่อนที่จะเลือก Hygrostat ดีๆมาใช้สักตัวนะครับ

Vuthmail-Thailand
22.06.54

20/6/54

Power of My Collection - Swiftlet Sound

ผมได้เตรียมตัวตัดแต่งเสียงเพื่อใช้เปิดเรียกนก สำหรับฤดูกาลใหม่ปี 2554 ด้วยเสียง Collection 5 ซึ่งได้ตัดแต่งและทดสอบมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งได้ผลค่อนข้างดี-การตอบสนองต่อเสียงของนกแอ่นเป็นไปด้วยดี โดยส่วนตัวมองว่าเป็นชุดเสียงที่ทรงพลังมากชุดหนึ่ง สังเกตุจากการที่นกมีความตื่นตัวเมื่อเปิดเสียง มีการรวมตัวกันอย่างรวดเร็วและบินเข้าบินออกอย่างสนุกสนาน แม้กระทั่งตอนที่ผมถ่าย Clip นี้มาให้ดู นกแอ่นส่วนใหญ่บินอย่างไม่สนใจตัวผม เสมือนผมไม่ได้อยู่ที่บริเวณที่ถ่าย Clip แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีนกแอ่นจำนวนหนึ่งที่บินห่างออกไปหลบมุมกล้องอาจจะเพราะตื่นคน แต่ส่วนใหญ่พุ่งความสนใจมาที่เสียงที่เปิดอยู่มากกว่า ดังที่ได้เห็น ตามที่ปรากฎอยู่ใน Clip

แต่ในปริมาณนกที่บินอยู่ในมุมกล้องซึ่งถ่ายมาเป็น Clip ให้ท่านได้ชมอยู่นี้ก็เป็นส่วนที่เห็นแล้วก็เรียกได้ว่ามากอย่างน่าพอใจ และสังเกตุจากปฏิกริยานกแล้วจะเห็นได้ว่า นกตื่นตัวและให้ความสนใจกับเสียงเป็นอย่างมาก บินเล่นกันอย่างสนุกสนาน แย่งที่กันเข้าไปเกาะที่ลำโพง บางตัวเกาะลำโพงไม่ได้ก็บินเข้าไปในบ้าน เพื่อหาโอกาสที่จะเกาะ หรือบินเข้าไปในบ้านเพื่อเสำรวจบ้านใหม่เสียเลย

จาก Clip ที่เห็นอยู่ด้านตึกนั้นเป็นนกเพียงจำนวนหนึ่งที่บินอยู่ ซึ่งไม่รวมกับนกอีกบางส่วนที่บินเข้าไปสำรวจภายในบ้านอีกจำนวนหนึ่งตามที่ผมได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งผมนั้นได้ถ่าย Clip ไว้ทั้งด้านหน้าตึก และภายในตัวตึกให้ชมกันอย่างละ 2 Clip

ภาพที่ถ่ายจากด้านหน้าตึก

หากว่าภาพไม่ขึ้น กรุณาเข้าไป Clip ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=O3jSyaTkIPQ&feature=related




หากว่าภาพไม่ขึ้น กรุณาเข้าไป Clip ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=O3jSyaTkIPQ




Clip ภายในตัวอาคาร อาจจะมืดหน่อยนะครับ แต่พอดูออกว่าเป็นนกที่บินเข้ามาสำรวจ


หากว่าภาพไม่ขึ้น กรุณาเข้าไป Clip ได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=XLoTvuGd3QM




หากว่าภาพไม่ขึ้น กรุณาเข้าไป Clip ได้ที่ http://youtu.be/x6j-jVW17a0



Clip ที่ถ่ายไว้ค่อนข้างสั้นไปหน่อยไม่สะใจผมเลย อยากให้ดูนานๆอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่า Batt ไม่ดีครับถ่ายภาพได้ไม่นานก็ดับ (หากว่าใครมี Batt ดีๆ Batt แท้ที่ใช้ได้นานๆ ของ Panasonic DMC-FX-7 กรุณาแจ้งผมด้วยนะครับ พักหลังมานี้ที่ไม่คุยได้ดู Clip ก็เพราะเรื่อง Batt นี้และครับ หากว่าใครพอทราบแหล่งจะที่ไปซื้อ Batt แท้ให้ได้กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยครับ เพราะว่าจะเอาใช้ถ่าย Clip ให้สะใจไปเลย

This is Power of My Collection
Vuthmail-Thailand
20.06.54

15/6/54

เสียงนกที่ดีเป็นอย่างไร

ผมจะแสดงเสียงที่เป็นต้นฉบับเดิมที่ได้มาจากต่างประเทศ กับ เสียงที่ผมได้ทำ Remaster เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งหลายๆคนไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงจะต้องมีการทำ Remaster ด้วย  สาเหตุ เพราะว่าเสียงต้นฉบับเกือบทุกเสียงจะมีปัญหาหลายอย่างปนกันครับ อย่างเช่นมีเสียงกวนมาก เสียงต้นฉบับมีการทำสำเนากันหลายๆครั้ง จนทำให้เสียงเกิดการเหลื่อม เกิดตกร่อง เกิดเสียง Crack หรือแม้แต่ว่าเสียงที่มุ่งเน้นเรื่องของความดังจนคุณภาพเสียงเสียหายหมด และปัญหาอีกหลายๆที่คนไม่มีความรู้เรื่องเสียงนกเพียงพอที่จะเข้าใจได้

รู้ว่าเสียงซื้อนี้ดังที่ต่างประเทศ เมื่อซื้อมาอย่างไรก็เปิดใช้เลย ซึ่งก็ไม่ผิดครับ แต่ลองดูฟังการเปรียบเทียบของเสียงเดิมๆใน CD กับ เสียงที่ผมได้ทำ Remaster ว่าแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร และผลของการเรียกนกจากเสียงเดิมกับเสียง Remaster จะต่างกันหรือไม่อย่างไร ผมอยากให้เพื่อนๆทดลองดูเองครับ

ล่าสุดผมได้ข่าวจากคนที่ลองนำเสียงของผมไปเปิดเรียก ตามคำบอกเล่าของผู้ที่ได้ใช้เสียง Remaster ของผม ท่านยืนยันว่าแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เสียงที่ Remaster จะเรียกนกได้เร็วกว่า แล้วเรียกนกได้มากกว่า อย่างนั้นเราของมาฟังกันดูว่าเสียงมันต่างกันอย่างไร

เริ่มต้นด้วยเสียงที่โด่งดังใน Malaysia ทั่ว 7 ย่านน้ำ แถมยังข้ามมาที่ประเทศไทยของเราอีกด้วย

 Autorizer   
-  เสียงต้นฉบับ         หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/03UP0TGt/09_Autorizer_Original_45_Sec.html

 -  เสียง Remaster       หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/s4SWvDYl/10_Autorizer_Remaster_45_Sec.html


 SUPER AAA
-  เสียงต้นฉบับ         หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/ctmKP_WW/07_SUPER_AAA_Original_45_Sec.html

-  เสียง Remaster        หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/YGf_9T3v/08_SUPER_AAA_Remaster_45_Sec.html




 Tongkat Ali
-  เสียงต้นฉบับ       หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/ymnvmLRj/13_Tongkat_Ali_Original_45_Sec.html

 -  เสียง Remaster      หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/2tpmTv5r/14_Tongkat_Ali_Remaster_45_Sec.html


 Chilipadi
-  เสียงต้นฉบับ       หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/B1BaezMh/11_Chilipadi_Original_45_Sec.html


 -  เสียง Remaster      หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่

http://www.4shared.com/audio/nY8ltrzl/12_Chilipadi_Remaster_45_Sec.html
 

 

 Marvelous Cloud
  -  เสียงต้นฉบับ         หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่ http://www.4shared.com/audio/Dq545k2K/01_Marvelous_Cloud_Origianl_45.html


  -  เสียง Remaster       หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/qZkKr_WQ/02_Marvelous_Cloud_Sample_45_S.html



Black Cloud 
 -  เสียงต้นฉบับ         หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/YnpsyCS8/03_Black_Cloud_Original_45_Sec.html


 -  เสียง Remaster       หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่ http://www.4shared.com/audio/NF2UmQJz/04_Black_Cloud_Remaster_45_Sec.html


เสียง KGOD

 -  เสียงต้นฉบับ         หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/2Kc5Lm2_/05_KGOD_Origianal_45_Sec.html

 -  เสียง Remaster          หากว่าภาพไม่ขึ้น Link ไปที่
http://www.4shared.com/audio/KGm0e_KN/06_Kgod_Remaster_45_Sec.html



แล้วเสียงที่เพื่อนๆ พี่น้องๆ มีอยู่-ใช้อยู่ นั้นเป็นเสียงแบบไหน เสียงเดิม หรือคิดว่าสมควรแก่เวลาที่จะลองเปลี่ยนมาใช้เสียงที่ Remaster แล้วหรือยัง  มีคนเริ่มให้ความสนใจเสียง Remaster กันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ อย่าให้คนอื่นๆแซงหน้าเราไปเพราะการยึดติดกับความคิดเดิมๆ นะครับ

เสียงที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างนี้ หากว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มีเสียงต้นฉบับเหล่านี้อยู่ก่อนแล้ว ลองฟังเสียงเปรียบเทียบ ผมให้อนญาติ Download ตัว Remaster ไปใช้ได้เลย แล้วก็ยินดี+เต็มใจให้ครับ 555.... ความยาวเสียงเพียงแค่ 45 วินาที และก็ไม่ต้องกลัวคนอื่นเค้าจะมาต่อว่าเอานะครับ เจ้าของเสียง Remaster ให้อนุญาติเองเลย เอาไปทดลองฟังให้เข้าใจ ฟังให้ขึ้นใจนะครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมจะต้องเป็นเสียงที่ได้ผ่านการทำ Remaster แล้วเท่านั้น

                                                                                                       Listen Carefully
                                                                                                    Vuthmail-Thailand
                                                                                                            15.06.54

การทำบุญเครื่องกระจายเสียง คุณแม่ ยุพา อร่ามกุล

วันที่ 15.06.54 ผมได้จัดส่งเงินเพื่อสมทบทุน ซื้อเครื่องกระจายเสียงให้คุณแม่ ยุพา อร่ามกุล เพิ่มเติมอีก 10,000 บาท ขอให้เพื่อนร่วมอนุโมทนาด้วยนะครับ บุญนี้ร่วมกันอนุโมทนาด้วยนะครับ

ผมมีความรู้สึกที่ดีมากครับ หลังจากที่มีเพื่อนช่วยกันสนับสนุนผมมาตลอด และผมได้ส่งเงินไปทำบุญเพิ่มเติม ซึ่งผมเองดีใจที่ได้รับบุญที่ได้ทำไว้ทุกวัน เช่น กุฏีพระ ; วงกบไม้ ; ประตูหน้าต่าง โต๊ะอาหาร ที่รองบาตร อื่นๆอีกหลายๆอย่าง รวมทั้ง ช่วยค่าสถานี  และ เครื่องส่งกระจายเสียงใน 2 ครั้งนี้ ผมรู้สึกสบายใจในสิ่งที่ทำครับ

รู้สึกว่าจะได้ทำเกือบครบแล้ว  ขาดแต่การอบรมจิตของตัวเองเท่านั้นครับ (บ่นให้ตัวเองครับ เพื่อนอย่า Serious นะ)  ที่นำมาเป็นบทความใหม่ก็เพียงเพื่อให้เพื่อนๆ ได้อนุโมทนา สาธุกาล เพื่อประโยชน์ของเพื่อนๆเองครับ ...... ยินดีกับท่านที่อนุโมทนาด้วยนะครับ


                                                                                     Vuthmail-Thailand
                                                                                             15.06.54



         

6/6/54

การกำจัดกลิ่นปูนภายในบ้านนก

ตามที่ผมได้สัญญาไว้กับคุณ netchantree ใน Web เกษตรพอเพียงเรื่องการกำจัดกลิ่นปูนที่เกิดจากก่อสร้างไว้บ้านนก

ตาม Link ที่เห็นอยู่ http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?PHPSESSID=96han0v3kbvrb0jjoh8ufgo1l2&topic=2934.800

การกำจัดกลิ่นปูนทำได้หลายวิธีนะครับ


1.-การล้างด้วยน้ำปล่าว ซึ่งจะต้องล้างกันหลายๆครั้งนะครับ เนื่องจากกลิ่นปูนหรือสารเคมีของปูนส่วนที่อยู่ด้านในซึ่งไม่โดนน้ำจะค่อยๆซึมออกมาที่ด้านนอก ดังนั้นเราจะต้องล้างกันบ่อยๆ จนกว่าสารเคมีที่อยู่ภายในลึกๆ จะถูกกำจัดออกไปหมด ซึ่งต้องล้างกันหลายครั้งมากๆเลย มากกว่า 5-8 ครั้ง ซึ่งเสียเวลาเอามากๆ เป็นวิธีการที่เห็นผลช้า

2.-การใช้ขี้นกแอ่น ป้ายหรือทาบนกำแพง (ซึ่งผมเรียกวิธีการนี้ว่า การดับกลิ่นแบบแห้ง) ซึ่งต้องใช้ขี้นกจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นแค่การเอากลิ่นขี้นกแอ่นกลบกลิ่นปูนเท่านั้น อีกอย่างขี้นกที่ทาไว้บนกำแพงก็จะค่อยหลุดร่วงลงมาที่พื้นเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก

3.-การใช้สับปะรดกองโตๆไปกองรวมกันไว้ในบ้านเพื่อดับกลิ่นปูน หรือบางคนใช้แอมโมเนียเพื่อกลบกลิ่นปูนไว้ สำหรับเรื่องแอมโมเนียนี้ ผมมีข้อแนะนำนะครับว่า หากว่าต้องการใช้แอมโมเนียอย่าไปซื้อแบบแพงๆนะครับ  ให้ไปซื้อแอมโมเนียที่เค้าทำปาท่องโก้มาใช้แทนจะดีกว่า เพราะว่าจะราคาถูกกว่าและหาได้ง่ายกว่ามาก และที่สำคัญกลิ่นแอมโมเนียจะอยู่ไม่ค่อยทนครับ ต้องคอยพลิกให้แอมโมเนียไปมาเพื่อให้สัมผัสอากาศได้อย่างทั่วถึง-กลิ่นแอมโมเนียจึงจะระเหยตัวออกมาได้อย่างเต็มที่ หากว่าไม่พลิกไปมา กลิ่นแอมโมเนียจะอยู่ได้เพียงชั่วระยะสั้นๆ กลิ่นจะเจือจางครับ

4.-การใช้กรดน้ำส้มสายชู ขนาดเจือจางอัตราส่วน 1 ต่อ 150 ฉีดพ่นตามกำแพงให้ทั่ว ในจุดที่ต้องการแล้วทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อวัตถุประสงค์ให้กรดไปกัดกลิ่นสารเคมีที่มีอยู่ในปูนให้เจือจางในเบื้องต้น  จากนั้นให้นำน้ำประปาฉีดล้างทำความสะอาดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการล้างเอากรดเจือจางออก   ซึ่งวิธีการนี้จะมีกลิ่นน้ำสมสายชู (กลิ่นเปรี้ยวอยู่  หลังการฉีดพ่นกรดเจือจางแล้ว ให้เปิดประตูหน้าต่าง หรือพัดลมระบายอากาศเพื่อเร่งระบายอากาศให้มาก)  ซึ่งกลิ่นเปรี้ยวนี้จะหมดไปในระยะ 3-5 วัน (หากว่าว่ากลิ่นยังไม่จาง ให้ล้างน้ำซ้ำอีกสัก 1-2 เที่ยว กลิ่นเปรี้ยวก็จะหายไป พร้อมทั้งกลิ่นปูนจากการก่อสร้างก็จะหายไปด้วยครับ   >>> ข้อแนะนำควรใส่แว่น เพื่อป้องกันสายตาไว้ก่อนการฉีดพ่นจะเป็นการดีมาก <<<
 
5.-การใช้น้ำหมักขี้นก  (ซึ่งผมเรียกวิธีการนี้ว่า การดับกลิ่นแบบเปียก)  ซึ่งคล้ายคลึงกับข้อ 2 แต่ว่าวิธีการนี้จะเป็นแบบแฉะ โดยการนำเอาขี้นกแอ่น ผสมกับน้ำประปา (ที่ปล่อยให้คลอรีนระเหยออกหมดแล้ว) นำมาผสมกันโดยใช้อัตราส่วน 1:3  ซึ่งก็คือการใช้ขี้นกใหม่ ขอย้ำว่าเป็นขี้นกใหม่นะครับ 1 ส่วนกับน้ำ 3 ส่วน หมักทิ้งไว้ 3 วัน โดยที่จะต้องกวนส่วนผสมให้เข้ากันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน คือ เช้า 1 รอบ เย็น 1 รอบเพื่อให้จุลทรีย์ที่อยู่ในขี้นกได้มีโอกาสรับ Oxygen บ้าง ในตอนที่กวนส่วนผสมนี้ ผมมีข้อควรระวังคือว่า กลิ่นน้ำหมักนี้กลิ่นไม่ค่อยโสภีเท่าไหร่นัก กลิ่นสุดยอดเลยชวนให้อ้วกจริงๆ  และก็อย่าให้น้ำหมักกระเด็นติดตัวหรือเสื้อผ้านะครับ เพราะว่ากลิ่นนี้จะติดทนมากๆ เดี่ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือนนะ 555....
    เมื่อหมักส่วนผสมครบ 3 วันให้นำน้ำที่ได้จากการหมักนี้ไปกรอง เพื่อเอากากขี้นกและสิ่งปนเปื้อนขนาดใหญ่ออก เหลือแต่น้ำที่กรองแล้วกับตะกอนเล็กๆ ไม่ต้องกรองละเอียดมาก จากนั้นนำไปฉีดพ่นตามกำแพงเพื่อดับกลิ่นปูน อีกทั้งกลิ่นนี้จะติดทนนานไปหลายอีกอาทิตย์
    ในกรณีที่หาขี้นกใหม่ไม่ได้เลย มีแต่ขี้นกเก่า ก็ยังสามารถนำมาใช้ได้เหมือนกันครับ แต่ต้องปรับสูตรกันใหม่ ใครอยากทราบโทรมาคุยกับผมจะดีกว่ายินดีที่จะบอกให้ทราบ
   
 
วิธีการต่างๆที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้นนี้เป็นการกำจัดกลิ่นปูนที่ปลายเหตุ อันเนื่องมาจากส่วนผสมของสารเคมีในปูนซิเมนต์นั้นเอง  ต่อไปนี้เป็นการช่วยลดกลิ่นปูนที่ต้นเหตุซึ่งก็จะสามารถช่วยลดกลิ่นปูนไปได้มากพอประมาณนั้นก็คือ
 
6.-การใช้สูตรปูนฉาบที่มีส่วนผสมของปูนขาวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยใช้ปูนขาวเข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งปูนขาวจะทำให้การฉาบปูนรื่น ฉาบง่าย ลดปริมาณการใช้ซิเมนต์ลด อีกทั้งยังมีสภาพเหมือนกับถ้ำหินปูนที่นกแอ่นอาศัยอยู่ สูตรการผสมปูน เพื่อให้กลิ่นซิเมนต์ไม่รุนแรงอีกทั้งช่วยให้สภาพภายในบ้านนกคล้ายกับผนังถ้ำ จะมีอัตราส่วนดังต่อไปนี้คือ
 
อัตราส่วนการผสมปูนเพื่อฉาบภายในบ้านนก 3-2-1  /  ทราย 3 ส่วน ปูนขาว 2 ส่วน และ ซิเมนต์ 1 ส่วน
 
 
  
ผนังที่ได้จากการฉาบโดยสูตรนี้จะช่วยลดเวลาในการกำจัดกลิ่นปูนได้รวดเร็วกว่าและกำจัดกลิ่นได้ง่ายกว่าการใช้สูตรปูนฉาบแบบปกติมากพอประมาณ
 
ผมได้เปิดเผยและได้แจกแจงวิธีการต่างๆอย่างละเอียดแล้ว และได้เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของวิธีการกำจัดกลิ่นปูนในแบบต่างๆไว้อย่างครบถ้วนแล้วนะครับ คิดว่าคงได้เป็นแนวทางบ้าง หากว่าสามารถนำหลายๆวิธีไปประยุกต์ใช้ ก็จะยิ่งทำให้กำจัดกลิ่นปูนได้ผลที่รวดเร็วขึ้นมาก

ปล.อย่าลืมช่วยกัน ร่วมสมทบทุนกับคุณแม่ยุพาด้วยนะครับ เพราะว่าเครื่องส่งกระจายเสียงนี้ใช้ทุกวัน ได้บุญทุกวัน ใช้ 20 ปีก็จะได้บุญตลอด 20 ปีเลยนะครับ บุญที่ได้ทุกวันติดต่อกันยาวนานมาก  จึงอยากให้ร่วมกันได้รับบุญในครั้งนี้ด้วยกันครับ  ตามที่เขียนไว้ในบทความก่อนนี้

ซึ่งผมกับครอบครัวได้ร่วมสมทบทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สำเร็จแล้ว เกิดเป็นบุญแล้ว.....สาธุ สาธุ สาธุ


                                                                                                   Vuthmail-Thailand
                                                                                                            06.06.54

อยากให้ร่วมบุญกันหน่อยนะครับ

พอดีช่วงอาทิตย์ก่อน (ต้นเดือน 06 ปี 2554)  เครื่องส่งของคุณแม่ยุพา อร่ามกุล ที่ใช้ออกรายการวิทยุ มาร่วม 20 ปีใช้มานานแล้วเกิดช๊อตเสียหาย ทำให้การออกอากาศวิทยุแล้ว สัญาญาณเสียงไม่คมชัด ฟังไม่รู้เรื่อง ทำให้การฟังรายการวิทยุเป็นไปด้วยความลำบากทั้งผู้จัดทำรายการและผู้ฟังรายการ ซึ่งในขณะนี้ทางคุณแม่ยุพา จะต้องไปขอยืมเครื่องส่งจากบุคคลที่รู้จัก (ซึ่งก็ต้องใช้เครื่องส่งในการทำรายการเช่นกัน) มาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปพลางก่อน ซึ่งสามารถยืมเครื่องได้เป็นเวลาสั้นๆช่วงหนึ่งเท่านั้น เพื่อรวบรวมปัจจัยที่จะซื้อเครื่องส่งกระจายเสียงตัวใหม่

ซึ่งผมเห็นว่ารายการนี้เป็นรายการที่ดี ให้ความรู้ในเรื่องของธรรมะที่ถูกต้อง ตรงตามพระไตรปิฏก และแก้ข้อสงสัย ปัญหาธรรมต่างๆ และแนวทางการประพฤติปฎิบัติตัวเพื่อการอบรมจิต ภาวนา วิปัสสะนา ซึ่งล้วนแล้วแต่เเป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่สนใจได้อย่างมาก ดังนั้นกระผมจึงอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆที่ติดตามอ่าน Blog ได้มีโอกาสในการร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยกัน

ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองก็ได้เตรียมปัจจัยที่จะส่งร่วมสมทบทุนไว้จำนวนหนึ่งเช่นกัน หากว่าเพื่อนๆที่สนใจจะร่วมบุญในครั้งนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมาก ผมจึงอยากชักชวนให้ร่วมบุณกันในครั้งนี้ด้วยนะ เพราะว่า คุณแม่ยุพาทำรายการวิทยุทุกวัน เครื่องส่งกระจายเสียงนี้ก็จำเป็นต้องใช้ทุกวันเช่นกัน เราก็จะได้บุญกันทุกวัน หากว่าคุณแม่ยุพาใช้งานได้นานถึง 20 ปีเหมือนเครื่องที่พังไปนี้ เราก็จะได้บุญตลอด 20 ปีเช่นกัน บุญของเราก็จะเกิดขึ้นทุกวัน  ผมจึงอยากให้ร่วมทำบุญครั้งนี้และได้ร่วมกันรับอานิสงส์แห่งบุญนี้กันทุกวัน

การร่วมสมทบทุนในครั้งนี้จะมากหรือน้อยอย่างไรไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญอยู่ "เจตนา" ในการร่วมด้วยช่วยกัน ในเวลาที่ผู้ต้องการความช่วยเหลือ กำลังต้องการความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการอย่างรวดเร็วทันเวลา และได้กระทำบุญ ตามเจตนาที่ได้ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ บุญก็จะสำเร็จ ส่วนเรื่องจำนวนมากหรือน้อยไม่มีความสำคัญเท่ากับ เจตนาที่ได้ลงมือทำจนสำเร็จ เป็นประโยชน์แล้ว

ผมเองออกบทความนี้เพื่อส่งต่อข้อมูลข่าวสารงานบุญนี้ ก็ไม่มีอะไรจะตอบแทนให้กับผู้ที่ร่วมสมทบทุนในครั้งนี้ ซึ่งได้อ่านบทความนี้แล้วเกิดจิตน้อมอยากร่วมทำบุญด้วยเสียงในครั้งนี้  ผมเองก็ได้แต่ร่วมอนุโมทนา สาธุด้วย และพยายามจะออกบทความเป็นระยะไปเรื่อยๆ เหมือนเช่นเดิมครับ

ท่านที่สนใจจะร่วมบุญสามารถโอนเงินเข้าบัญชีคุณแม่ยุพา ได้โดยตรงที่

ชื่อบัญชี  ยุพา  อร่ามกุล

1.- บัญชีธนาคาร     กรุงเทพ     สาขา บางเขน      ประเภทสะสมทรัพย์ เลขที่ 161-5-36875-8
2.- บัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์  สาขา พระราม 9   ประเภทสะสมทรัพย์ เลขที่  066-2-26203-0

หลังจากโอนเงินแล้วกรุณา แจ้งคุณแม่ยุพา ที่โทร 02-941-3558 หรือ Fax 02-914-3556 โดยตรงเลยครับ เพราะว่าคุณแม่ยุพาจะได้รับรู้รับทราบและร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะครับ  .....

  " สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ  -  การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "  

                                                                                   Vuthmail-Thailand
                                                                                             06.06.54