สำหรับท่านที่ทำบ้านนกทั้งหลาย ที่อุณหภูมิในบ้านสูงเกินกว่า 32 องศาฟังทางนี้นะครับ
คุณสมิทธ ธรรมสโรจน์ อดีตหัวหน้าใหญ่ของกรมอุตุนิยมวิทยา ได้กล่าวในข่าวเมื่อวานนี้ว่าในปีหน้า 2554 มีความเป็นไปได้ว่าสภาพอากาศจะร้อนกว่าในปี 2553 นี้ ได้ยินได้ฟังอย่างนี้แล้ว ท่านที่ทำบ้านนกแล้วอุณหภูมิภายในยังสูงอยู่ในระดับ 32 องศา ควรลองรีบหาทางแก้ไขหรือป้องกันเอาไว้ล่วงหน้าก่อนจะเป็นการดีนะครับ เพราะว่าปีหน้าจะสาหัสกว่าปีนี้อีก
สำหรับหน้าร้อนปี 2553 นี้ก็ให้ทำการแก้ปรับปรุงบ้านโดยพยายามหาสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านนกสูงขึ้น แล้วทบทวน ตรวจสอบกันให้ลึกลงไปเรื่อย จนเมื่อพบกับปัญหาจริงๆได้แล้ว เราก็จะสามารถหาวิธี หามาตราการในการป้องกันและแก้ไขได้ถูกต้อง หากว่าทำการแก้ได้ทันในปี 2553 นี้แล้วในปีหน้า 2554 เราสามารถคลายกังวลไปได้ในระดับหนึ่งแล้วครับ และจะทำให้นกที่อยู่ภายในบ้านของท่านอยู่ได้อยู่สบายๆ ตลอดทั้งปี 2553-2554 สำหรับหน้าร้อนนี้ยังมีเวลาให้ท่านตรวจสอบจุดบกพร่องต่างๆ ได้อีกระยะหนึ่งนะครับ
ซึ่งระยะเวลาที่ว่านี้ก็มีข่าวดีให้ท่านเจ้าของบ้านนกได้ดีใจเช่นกัน เพราะว่ามีการคาดการณ์กันว่าในกลางเดือน 05 จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนกันแล้ว นั่นหมายถึงว่าเราน่าจะอยู่ในช่วงท้ายๆของช่วงวิกฤตความร้อนกันแล้วครับ อีกไม่กี่วันก็จะหมดเดือนเมษายน เข้าพฤษภาคมแล้วก็เริ่มต้นหน้าฝนอันเป็นฤดูของนกรุ่นใหม่ที่จะออกมาในจำนวนมาก และเป็นฤดูที่ท่านเจ้าของบ้านนกทุกๆท่านชื่นชอบ และรอคอยกันมานาน เพราะว่าจะได้นับนก ดูนกด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้นกับการดูนกบินเข้าบินออกในบ้านนกของท่าน เพื่อนๆที่กำลังปรับปรุงแก้ไขบ้านนกกันอยู่ก็เร่งมือแก้ ทำให้เสร็จกันไวๆ อย่าได้นิ่งนอนใจ สำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มต้นหาสาเหตุความร้อนภายในบ้านนกก็จะต้องรีบลงมือตรวจสอบหาสาเหตุได้แล้ว เพราะหากว่าผ่านจุดนี้ไปแล้วท่านจะไม่สามารถหาสาเหตุของปัญหาได้ ทำให้ปีหน้าท่านต้องเหนื่อยกันเป็นพิเศษ
ดังนั้นท่านเจ้าของบ้านนกทั้งหลายจำเป็นต้องตื่นตัว เตรียมตัว เริ่มตระเตรียมไม้เด็ด ทีเด็ดต่างๆของท่านไว้แต่เนิ่นๆ หากว่าเข้าสู่หน้าฝนจริงๆจะได้ไม่ฉุกละหุก ขาดโน่นขาดนี้ ลืมไอ้นั้นลืมไอ้นี่ อย่าให้เป็นอย่างนี้ ไม่เอาไม่ให้เกิดขึ้นนะครับ ผมแนะนำให้เริ่มเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ต่างๆไว้รองรับหน้าฝนที่กำลังจะมาถึงไว้ก่อนเลยครับ จะได้พร้อมในทีเดียว ไม่อย่างนั้นบ้านนกเพื่อนบ้านของท่านที่เตรียมตัวรอท่าอยู่แล้วจะอยู่ในฐานะได้เปรียบกว่า-พร้อมกว่า พร้อมที่จะรับนกใหม่ได้ทันทีไม่ต้องมาเริ่มตระเตรียมกันใหม่ เพราะว่าตัวท่านเอง มั่วแต่ช้า โอ้เออยู่จะไม่ทันการณ์ เรื่องอย่างนี้ไม่มีใครบอกใคร คนที่เตรียมตัวพร้อมอยู่ตลอดเวลาย่อมเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์ก่อน ได้นกก่อนเสมอ คนที่มาช้า มาทีหลังก็ได้ประโยชน์น้อยกว่าซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ ดังนั้นเราจึงควรเริ่มเตรียมตัวกันไว้แต่เนิ่นๆจะเป็นการดี
คำเตือน!.... ผมอยากให้เพื่อนเริ่มบริหารกล้ามเนื้อต้นคอไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ เพราะหากว่ากล้ามเนื้อต้นคอของเพื่อนๆไม่แข็งแรงจะนำพาให้เพื่อนๆ เป็นโรคปวดต้นคอเรื้อรัง เพราะท่านจะปวดเมื่อยๆ บริเวณต้นคอกันบ่อยกว่าเดิม เพราะต้นคอของท่านที่เงยหน้าดูนกจะรับบทหนักกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้ปวดเมื่อยกันได้ง่ายๆเลย ดังนั้นเริ่มบริหารกล้ามเนี้อต้นคอไว้บ้าง .......เดียวจะหาว่าหล่อไม่เตือนนะครับบบบบบ........
Vuthmail-Thailand
28.04.53
Swiftlet Ranching-เรื่องของนกแอ่นในสไตล์ของ Vuthmail-Thailand บุญใด กุศลใด ที่ได้-ที่เกิดจากการอ่าน Blog นี้ ซึ่งทำให้ท่านมีความเข้าใจที่ดีขึ้น ลึกซึ้งขึ้นและเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านมากขึ้น ; บุญนั้น กุศลนั้น ที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว-ขอมอบอุทิศให้แก่บิดา นาย เสริมศักดิ์ สุรินทร์รัฐ ผู้วายชนม์ และคุณแม่สำอางค์ แซ่ปึง ผู้ให้กำเนิด พร้อมญาติพี่น้องทุกคน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผมทุกๆท่าน ด้วยเถิด สาธุ ท่านที่ต้องการพูดคุยกับผม ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-318-1361
28/4/53
26/4/53
Clip บางส่วนจากเสียงใน Collection 4
เมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้นำเสียงใน Collection 4 ไปทดสอบ
ผมออกเดินทางวันศุกร์เย็นไปถึงบ้านนกตอนประมาณ 3 ทุ่ม เมื่อถึงที่ตึกนก ผมขึ้นตึกเพื่อนำ ThumDrive ที่บรรจุเสียง Collection 4 ที่ทำเสร็จแล้วไปเสียบไว้ที่เครื่องเล่น DVD แล้วลงจากตัวตึกนกระหว่างทางก็ได้ตรวจสอบเรื่องอุณหภูมิความชื้นทุกชั้น เพื่อดูว่าจะต้องปรับแก้อะไรหรือไม่อย่างไรบ้าง แล้วก็ออกจากตัวตึกไปที่เข้าไปพักผ่อนตามเรื่องตามราวของคนที่เหนื่อยจากการเดินทาง แล้วก็เข้านอน
ตอนเช้าตื่นมา 8.45 น.นอนไม่ค่อยหลับ ล้างหน้าล้างตาแล้วก็มานั่งดื่มกาแฟ พอดื่มกาแฟยังไม่ทันถึง 4 คำ ก็รีบคว้ากล้องแล้วไปถ่ายภาพมาให้ดู เพราะว่า นกมีการรวมตัวกันเหนือช่องเข้าออก มากจนผิดหูผิดตาจากที่เคยๆเห็นกันโดยปกติวิสัยที่เคยเป็นมา และประกอบก่อนหน้านี้ร้อนมาหลายวัน ทำให้ดีกรีความสนใจน้อยลงไป แต่เช้าวันเสาร์นี้อากาศไม่ร้อน แดดยังไม่แรงมาก ก็เลยได้เห็นภาพตามที่ถ่าย VDO มาให้ดูกันนี้ เสียดายนิดครับว่าไม่สามรถถ่ายภาพกว้างจะได้เห็นนกมากกว่าปรากฏอยู่ใน VDO เพราะเกรงว่าภาพที่ได้เล็ก มองไม่เห็นนกตัวนก ก็เลย Zoom เอาเห็นนกเฉพาะที่หน้าตึกก็พอแล้ว ซึ่งก็มากพอที่จะเห็นนกได้ชัดพอประมาณ
หน้าฝนที่จะถึงนี้ เสียง Collect 4 คงจะเป็นพระเอกและทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่เห็นใน VDO เพราะเสียงที่ใช้เหมาะกับหน้าฝนมากๆๆๆ ครับ
ปล... CBox ผมยังเดี้ยงอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
Vuthmail-Thailand
26.04.53
ผมออกเดินทางวันศุกร์เย็นไปถึงบ้านนกตอนประมาณ 3 ทุ่ม เมื่อถึงที่ตึกนก ผมขึ้นตึกเพื่อนำ ThumDrive ที่บรรจุเสียง Collection 4 ที่ทำเสร็จแล้วไปเสียบไว้ที่เครื่องเล่น DVD แล้วลงจากตัวตึกนกระหว่างทางก็ได้ตรวจสอบเรื่องอุณหภูมิความชื้นทุกชั้น เพื่อดูว่าจะต้องปรับแก้อะไรหรือไม่อย่างไรบ้าง แล้วก็ออกจากตัวตึกไปที่เข้าไปพักผ่อนตามเรื่องตามราวของคนที่เหนื่อยจากการเดินทาง แล้วก็เข้านอน
ตอนเช้าตื่นมา 8.45 น.นอนไม่ค่อยหลับ ล้างหน้าล้างตาแล้วก็มานั่งดื่มกาแฟ พอดื่มกาแฟยังไม่ทันถึง 4 คำ ก็รีบคว้ากล้องแล้วไปถ่ายภาพมาให้ดู เพราะว่า นกมีการรวมตัวกันเหนือช่องเข้าออก มากจนผิดหูผิดตาจากที่เคยๆเห็นกันโดยปกติวิสัยที่เคยเป็นมา และประกอบก่อนหน้านี้ร้อนมาหลายวัน ทำให้ดีกรีความสนใจน้อยลงไป แต่เช้าวันเสาร์นี้อากาศไม่ร้อน แดดยังไม่แรงมาก ก็เลยได้เห็นภาพตามที่ถ่าย VDO มาให้ดูกันนี้ เสียดายนิดครับว่าไม่สามรถถ่ายภาพกว้างจะได้เห็นนกมากกว่าปรากฏอยู่ใน VDO เพราะเกรงว่าภาพที่ได้เล็ก มองไม่เห็นนกตัวนก ก็เลย Zoom เอาเห็นนกเฉพาะที่หน้าตึกก็พอแล้ว ซึ่งก็มากพอที่จะเห็นนกได้ชัดพอประมาณ
หน้าฝนที่จะถึงนี้ เสียง Collect 4 คงจะเป็นพระเอกและทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่เห็นใน VDO เพราะเสียงที่ใช้เหมาะกับหน้าฝนมากๆๆๆ ครับ
ปล... CBox ผมยังเดี้ยงอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
Vuthmail-Thailand
26.04.53
23/4/53
ผมทำเสียงเรียกนก Collection 4 เสร็จแล้ว เสียงเรียกนกชุดนี้มีความยาว 2.30 ชั่วโมง
ซึ่งประกอบไปด้วย 11 เสียงหลักที่เรียกนกได้ดี ซึ่งผมได้เก็บสะสมมาตลอด 4 ปี และได้ทดลอง
ใช้มาตลอด ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และมีเสียงที่เป็น Trick อีก 5 เสียง ที่ทำให้นกเล่นเสียงได้
อย่างสนุกสนาน นกบินเล่นต่อเนื่องกันนานกว่าเสียงปกติ 2-3 เท่า
ซึ่งเสียงนี้ผมคาดว่าจะนำออกมาใช้ในหน้าฝนที่จะถึงนี้ เพื่อเรียกนก ดึงนกให้มาอยู่ที่บ้านนกของผม
ผมทำการปรับสภาพเสียงใหม่ทั้งหมด สังเกตุช่วงรอยต่อเสียงไม่กระโดด เสียงเรียบสม่ำเสมอเท่าๆกัน
ไม่มีการสะดุด เสียงอยู่ในระดับเดียวกันไม่แตกต่าง เสียงไม่เกิน ให้ความคมชัดของทุกเสียงเลย
กลุ่มแรกเป็น Clip ตัวอย่างรอยต่อของเสียงจาก CD 2 CD มี 5 เสียงตัวอย่างมาทดลองฟังกันครับ
ต่อไปก็เป็นกลุ่ม Clip เสียงสั้นๆๆ แต่มาจากหลายเสียง
เสียงนี้เกิดจาก 3 เสียงรวมกัน
เสียงนี้เกิดจาก 5 เสียงรวมกัน
ปล.สงสัย Cbox จะมีปัญหา ผมก็เลยลบ บทความนี้ไป แล้วเขียนขึ้นมาใหม่ แต่เป็นเสียงชุดเดิม
This is it.
Vuthmail-Thailand
ซึ่งประกอบไปด้วย 11 เสียงหลักที่เรียกนกได้ดี ซึ่งผมได้เก็บสะสมมาตลอด 4 ปี และได้ทดลอง
ใช้มาตลอด ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และมีเสียงที่เป็น Trick อีก 5 เสียง ที่ทำให้นกเล่นเสียงได้
อย่างสนุกสนาน นกบินเล่นต่อเนื่องกันนานกว่าเสียงปกติ 2-3 เท่า
ซึ่งเสียงนี้ผมคาดว่าจะนำออกมาใช้ในหน้าฝนที่จะถึงนี้ เพื่อเรียกนก ดึงนกให้มาอยู่ที่บ้านนกของผม
ผมทำการปรับสภาพเสียงใหม่ทั้งหมด สังเกตุช่วงรอยต่อเสียงไม่กระโดด เสียงเรียบสม่ำเสมอเท่าๆกัน
ไม่มีการสะดุด เสียงอยู่ในระดับเดียวกันไม่แตกต่าง เสียงไม่เกิน ให้ความคมชัดของทุกเสียงเลย
กลุ่มแรกเป็น Clip ตัวอย่างรอยต่อของเสียงจาก CD 2 CD มี 5 เสียงตัวอย่างมาทดลองฟังกันครับ
ต่อไปก็เป็นกลุ่ม Clip เสียงสั้นๆๆ แต่มาจากหลายเสียง
เสียงนี้เกิดจาก 3 เสียงรวมกัน
เสียงนี้เกิดจาก 5 เสียงรวมกัน
ปล.สงสัย Cbox จะมีปัญหา ผมก็เลยลบ บทความนี้ไป แล้วเขียนขึ้นมาใหม่ แต่เป็นเสียงชุดเดิม
This is it.
Vuthmail-Thailand
18/4/53
วันที่ 2 ของการเปิดบ้านอย่างจริงจัง
วันที่ 2 ของการเปิดบ้านอย่างจริงจัง ของเพื่อนนักประดิษฐ์ของเราครับ
ดูนกบินเข้าออกเห็นกันจะๆ เห็นกันเต็มตาเลยนะครับ ต้องขอบพระคุณ คุณหนุ่มจันทน์สำหรับ VDO ครับ
อีกอย่างหนึ่ง ผมทำหน้าที่ของผมตามที่ได้สัญญาไว้กับคุณหนุ่มจันทน์จนครบถ้วน ตาม Gentleman
Agreement ทั้งการแนวทางการปรับปรุง และการเรียกนกให้เข้าบ้าน ด้วยเสียงที่ปรับสภาพของผม ซึ่งผมได้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ผมตั้งใจไว้แล้ว ได้ทำตามที่ได้สัญญาไว้กับคุณหนุ่มครบถ้วน ไม่ตกหล่นแล้ว
เราเริ่มต้นส่วนแรก และจบส่วนแรกกันไปแล้วนะ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณหนุ่มจันทน์แล้วว่าจะบริหารจัดการอุณหภูมิความชื้นได้มากน้อยขนาดไหน ตามความรู้ที่คุณหนุ่มมีเพื่อที่จะจัดการให้นกมากขึ้นกว่าเดิม ได้รังสวยๆๆหลายๆรัง อาณาจักรนกใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในบ้านของคุณหนุ่มจันทน์
ผมขอจบ Case คุณหนุ่มจันทน์ด้วย การดู Clip กันดีกว่านะครับ เพราะคุณหนุ่มเพิ่งส่งมาให้สดๆร้อนๆ
This is a Gentleman Agreement
Vuthmail-Thailand
18.04.53
ดูนกบินเข้าออกเห็นกันจะๆ เห็นกันเต็มตาเลยนะครับ ต้องขอบพระคุณ คุณหนุ่มจันทน์สำหรับ VDO ครับ
อีกอย่างหนึ่ง ผมทำหน้าที่ของผมตามที่ได้สัญญาไว้กับคุณหนุ่มจันทน์จนครบถ้วน ตาม Gentleman
Agreement ทั้งการแนวทางการปรับปรุง และการเรียกนกให้เข้าบ้าน ด้วยเสียงที่ปรับสภาพของผม ซึ่งผมได้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ผมตั้งใจไว้แล้ว ได้ทำตามที่ได้สัญญาไว้กับคุณหนุ่มครบถ้วน ไม่ตกหล่นแล้ว
เราเริ่มต้นส่วนแรก และจบส่วนแรกกันไปแล้วนะ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณหนุ่มจันทน์แล้วว่าจะบริหารจัดการอุณหภูมิความชื้นได้มากน้อยขนาดไหน ตามความรู้ที่คุณหนุ่มมีเพื่อที่จะจัดการให้นกมากขึ้นกว่าเดิม ได้รังสวยๆๆหลายๆรัง อาณาจักรนกใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในบ้านของคุณหนุ่มจันทน์
ผมขอจบ Case คุณหนุ่มจันทน์ด้วย การดู Clip กันดีกว่านะครับ เพราะคุณหนุ่มเพิ่งส่งมาให้สดๆร้อนๆ
This is a Gentleman Agreement
Vuthmail-Thailand
18.04.53
17/4/53
ความเปลี่ยนแปลงบ้านนกของคุณหนุ่มจันทน์
ตลอด 4 ปีกว่าแห่งความอดทนของคุณหนุ่มจันทน์ เพื่อนของเราคนนี้ที่พยายามศึกษาหาทางปรับปรุงแก้ไขบ้านเพื่อให้มีนกมากขึ้น 4 ปีกว่าแห่งการรอคอย 4 ปีแห่งความอดทน 4 ปีที่ฝากความหวังไว้กับบ้านนกหลังนี้
นับแต่วันสงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) 53 นี้บ้านนกหลังนี้จะเปลี่ยนไปแล้วครับ จากเดิมซึ่งไม่ค่อยมีนกแอ่นมาบินเล่น และในบ้านมีนกแอ่นเข้ามาอยู่ไม่มากนัก หวังใจว่าต่อไปจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และดีขึ้นไปเรื่อยๆตามที่คุณหนุ่มได้ตั้งใจไว้แล้วครับ
ภาพใน Clip เป็นภาพที่คุณหนุ่มส่งมาให้ผมดู หลังจากที่ได้เปิดทดลองใช้เสียงของผมซึ่งผมได้ปรับสภาพเสียงให้ไปแล้ว หลังจากที่เปิดเสียงแล้ว ตามคำบอกเล่าของคุณหนุ่มที่บอกกับผมว่า นกแอ่นจากข้างบ้านบินออกมาหมดเลย แล้วก็มาเล่นเสียงที่เปิดไว้ ซึ่งเป็นเสียงที่ผมปรับสภาพเสียงแล้ว
ลองดูใน VDO ที่คุณหนุ่มส่งมาให้ผมดูเองจะดีกว่านะครับ
อ้อ อีกอย่างให้สังเกตุดูดีๆ จะเห็นว่านกบินแล้วหายเข้าไปในบ้านหลายต่อหลายตัวนะครับ แต่ใน VDO ยังที่ไม่เห็นนกออกมาเลย ผมว่าหลังจากสงการนต์นี้ผมจะคงร่วมดีใจกับคุณหนุ่มจันทน์ได้แล้วนะครับ หากว่าผมไปที่จันทบุรีจะไปขอทานข้าวด้วยนะครับบบบบบบ
Happy SongKran Festival
Vuthmail-Thailand
17.04.53
นับแต่วันสงกรานต์ (ปีใหม่ไทย) 53 นี้บ้านนกหลังนี้จะเปลี่ยนไปแล้วครับ จากเดิมซึ่งไม่ค่อยมีนกแอ่นมาบินเล่น และในบ้านมีนกแอ่นเข้ามาอยู่ไม่มากนัก หวังใจว่าต่อไปจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และดีขึ้นไปเรื่อยๆตามที่คุณหนุ่มได้ตั้งใจไว้แล้วครับ
ภาพใน Clip เป็นภาพที่คุณหนุ่มส่งมาให้ผมดู หลังจากที่ได้เปิดทดลองใช้เสียงของผมซึ่งผมได้ปรับสภาพเสียงให้ไปแล้ว หลังจากที่เปิดเสียงแล้ว ตามคำบอกเล่าของคุณหนุ่มที่บอกกับผมว่า นกแอ่นจากข้างบ้านบินออกมาหมดเลย แล้วก็มาเล่นเสียงที่เปิดไว้ ซึ่งเป็นเสียงที่ผมปรับสภาพเสียงแล้ว
ลองดูใน VDO ที่คุณหนุ่มส่งมาให้ผมดูเองจะดีกว่านะครับ
อ้อ อีกอย่างให้สังเกตุดูดีๆ จะเห็นว่านกบินแล้วหายเข้าไปในบ้านหลายต่อหลายตัวนะครับ แต่ใน VDO ยังที่ไม่เห็นนกออกมาเลย ผมว่าหลังจากสงการนต์นี้ผมจะคงร่วมดีใจกับคุณหนุ่มจันทน์ได้แล้วนะครับ หากว่าผมไปที่จันทบุรีจะไปขอทานข้าวด้วยนะครับบบบบบบ
Happy SongKran Festival
Vuthmail-Thailand
17.04.53
13/4/53
Clip วันที่เข้าบ้านนกไปวัดอุณหภูมิ
จำได้ว่าผมถ่าย Clip วันที่เข้าบ้านนกไว้ตามที่บรรยายไว้ในบทความที่แล้วครับ
การ Block ความร้อนไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านนกครับ
เริ่มต้นจากการวัดอุณหภูมิ ความชื้น ภายนอกอาคารตอนบ่าย 2 ผลที่ได้ Temperature-36 c Humidity-38% Rh
ตามด้วยอุณหภูมิ ความชื้น ของแต่ละชั้น ภายในอาคารก็จะแตกต่างกันไป ผลที่ได้ตามที่ปรากฏอยู่ใน VDO
อุณหภูมิภายนอก 36-36.8 องศา แต่ว่าค่าอุณหภูมิภายในสูงสุดชั้นที่ 1- 31.7 c และต่ำที่สุดที่ชั้น 2 ที่ 29.8 c ส่วนที่ 3 วัดได้ 30.2 องศา ซึ่งผมเองค่อนข้างจะพอใจการกับ Block ความร้อนไม่ให้เข้าไปในบ้านนกได้ตามที่คิดไว้ คืออยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 5-6 องศา เพื่อป้องกันสุขภาพของพ่อแม่นกเพื่อไม่ให้เกิดอากาศ Shock จากอากาศที่เย็นจนเกินไปในบ้านนก และช่วยให้ไข่ของแม่นกเสีย เป็นไข่ลม
Enjoy it
Vuthmail - Thailand
การ Block ความร้อนไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านนกครับ
เริ่มต้นจากการวัดอุณหภูมิ ความชื้น ภายนอกอาคารตอนบ่าย 2 ผลที่ได้ Temperature-36 c Humidity-38% Rh
ตามด้วยอุณหภูมิ ความชื้น ของแต่ละชั้น ภายในอาคารก็จะแตกต่างกันไป ผลที่ได้ตามที่ปรากฏอยู่ใน VDO
อุณหภูมิภายนอก 36-36.8 องศา แต่ว่าค่าอุณหภูมิภายในสูงสุดชั้นที่ 1- 31.7 c และต่ำที่สุดที่ชั้น 2 ที่ 29.8 c ส่วนที่ 3 วัดได้ 30.2 องศา ซึ่งผมเองค่อนข้างจะพอใจการกับ Block ความร้อนไม่ให้เข้าไปในบ้านนกได้ตามที่คิดไว้ คืออยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 5-6 องศา เพื่อป้องกันสุขภาพของพ่อแม่นกเพื่อไม่ให้เกิดอากาศ Shock จากอากาศที่เย็นจนเกินไปในบ้านนก และช่วยให้ไข่ของแม่นกเสีย เป็นไข่ลม
Enjoy it
Vuthmail - Thailand
12/4/53
อดทนกันอีกนิดหน่อยนะครับ
ช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี เป็นความทุกข๋ของท่านที่ทำบ้านนกนะครับ
เรื่องหนักอก หนักใจของทุกบ้านนกกันเลยก็ว่าได้ อุณหภูมิแกว่งมาก ความชื้นเข้าขั้นวิกฤติ เมื่อวานผมเข้าไปบ้านนก ผมวัดอุณหภูมิความชื้นที่ด้านนอกบ้านนก อุณหภูมิที่วัดได้ขึ้นไปถึง 36 องศา ความชื้นเห็นแล้วอยากร้องไห้เลย อยู่ที่ 38 Rh% เข้าขั้นวิกฤตกันเลยนะครับ ผมว่าที่อื่นๆก็ไม่ต่างไปจากนี้เท่าไหร่นะ จะสูงจะต่ำกว่ากันก็ต้องว่าไปตามตำแหน่งที่ตั้ง และภูมิศาสตร์ของแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ
สำหรับบ้านนกที่อยู่แถบรอบๆกรุงเทพ ต้องเหนื่อยกันแล้ว หาวิธีการป้องกัน อย่าให้ความร้อนขึ้น และยังต้องหาทางเพิ่มความชื้นที่วิกฤตนี้กันเต็มที่ อย่าให้หลุดเกณฑ์มาตราฐานกันมากเกินไปนะครับ
ส่วนคนที่อยู่ทางใต้ลึกลงไปก็มีปัญหาบ้าง แต่คงไม่สาหัสอย่างจังหวัดรอบๆกรุงเทพนะครับ แต่เรื่องความชื้นทางใต้ลึกลงไป หรือทางภาคตะวันออกความชื้นจะดีกว่ามาก เพราะได้รับอานิสงค์ของภูมิศาสตร์ที่ใกล้ทะเล มีทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ความชื้นใน Location เหล่านี้จะได้รับความชื้นจากน้ำทะเลที่ระเหยกลายเป็นไอน้ำ กลายเป็นความชื้นในบรรยากาศ อันเนื่องมาจากความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผาน้ำทะเล พร้อมทั้งลมที่พัดจะเป็นการช่วยเพิ่มความชื้นในบรรยายกาศให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บ้านนกทุกหลังก็ยังคงต้องทำการบ้านในการป้องกันความร้อนที่จะกระทบต่อบ้านนกของแต่ละท่านเช่นกัน อย่าประมาท เพราะว่านับวันอุณหภูมิก็จะยิ่งร้อนเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับหน้าร้อนนี้ คงต้องอดทนกันอีกนิดหน่อยนะครับ อีกประมาณ 4-5 วัน อุณหภูมิจะเริ่มลดลงแล้วนะครับหากว่าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะทรงๆอยู่อีกสักพักนะครับ แต่ไม่วิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ใน 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา การตรวจสอบอุณหภูมิ ภายนอกบ้านนก ภายในบ้าน ทั้งเช้า บ่าย เย็นหรือว่าค่ำ เพื่อให้เราทราบภาพรวม เพื่อใช้วางแนวทางในการแก้ไขอุณหภูมิความชื้นที่ยังไม่ถึงเกณฑ์สำหรับในการแก้ไขในอนาคตได้บ้าง
แต่ไม่ควรที่จะก้มหน้าก้มตาทำหรือแก้ไข จนให้เข้าสู่จุด Ideally โดยถือเกณฑ์ 25-27 องศาอย่างในหน้าฝน ผมว่าเป็นเรื่องที่ยากครับ แต่ว่าก็คงไม่อยากสักเท่าไหร่สำหรับคนที่อยู่ทางใต้ลึกลงไปหรือทางภาคตะวันออก แต่ผมไม่แนะนำระดับอุณหภูมิที่ 25 หรือต่ำกว่านี้ สำหรับบ้านนกทั่วไปคงทำได้ยากมากและหากว่าทำได้ก็ต้องลงทุนในระบบควบคุมกันเต็มที่ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุนสักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวผมแนะนำระดับอุณหภูมิที่ 28 องศา เพราะว่าอุณหภูมิระดับนี้จะช่วยแม่นกที่กกไข่จะฟักไข่ได้ง่ายกว่า มีโอกาสที่ไข่จะเสียเป็นไข่ลมจะน้อยกว่า เพราะว่าแม่นกจะต้องรักษาอุณหภูมิไข่ไว้ที่ระดับ 34 องศาโดยเฉลี่ย หากว่าแม่นกออกไปหาอาหารนาน ไข่ก็จะเสียความร้อนได้ และหากว่าเป็นอุณหภูมิที่ 25 องศา แม่นกต้องเริ่มต้นให้ความอบอุ่นกับไข่ใหม่เรื่อยๆ ทำให้มีโอกาสที่ไข่เสียจะง่ายกว่า
ในช่วงนี้ผมว่า สัตว์ทุกชนิดบนโลกนี้เค้าก็รู้ว่าเป็นหน้าร้อน จั๊กจั่นเริ่มร้อง สัญชาติญาณของสัตว์จะแม่นยำกว่ามนุษย์เรา นกแอ่นเริ่มต้องออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ เพราะว่าแสงสว่างมาเร็วขึ้น นกต้องเร่งไปหากิน ดังนั้นนกอีแอ่นก็คงเข้าใจ มีเหตุผลที่จะยอมรับระดับอุณหภูมิใน Nesting Room ที่สูงขึ้นกว่าปกติในช่วงนี้ได้
ผมแนะนำท่านเจ้าของบ้านนกว่าไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินไปนัก เราทำหน้าที่ของเราโดยการป้องกันความร้อนตามที่เราสามารถทำได้ นกอีแอ่นเค้าก็รู้หน้าที่ของเค้าว่าจะต้องยอมรับกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในหน้าร้อนที่กำลังเป็นอยู่ เรามีหน้าที่ในการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิสูงหรือลดอุณหภูมิให้ต่ำลง และเพิ่มความชื้นใน Nesting Room ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและจ่ายอย่างมีเหตุมีผล แต่ก่อนที่จะลงทุนควักเงินจ่ายเงิน ผมอยากให้ทุกๆท่าน ค้นหาให้พบสาเหตุที่แท้จริงของอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นให้เจอเสียก่อน เพราะว่าการออกแบบบ้านแตกต่างกัน เครื่องไม้เครื่องมือแตกต่างกัน ระบบการให้ความชื้นที่ต่างกัน ระบบการหมุนเวียนอากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นท่านต้องไปงัดแงะ ไปขุด ไปแกะ จนสามารถรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงให้ได้ อะไรที่เป็นจุดบอดต้องหาให้เจอ แล้วตั้งสมมุติฐานขึ้นมา และทดลองพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งขึ้นมา
หากว่าตั้งสมมุติฐานได้ถูกต้อง และทดลองแก้ไขปัญหาแล้ว อุณหภูมิลดลงได้มาก ในเวลาที่รวดเร็ว ความชื้นได้ระดับ แสดงว่าท่านเกาถูกที่คัน เจอปัญหาที่แท้จริง และแก้ได้ถูกจุดแล้ว แต่หากว่าอุณหภูมิลดลงช้าใช้เวลามาก แสดงยังเกาไม่ถูกที่คัน ไม่เจอตัวปัญหาที่แท้จริง แต่ก็มาถูกทางบ้างแล้ว
เพื่อนๆต้องเน้นหาจุดบอดของการ Block ความร้อนว่าเกิดจากอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง และจะหาทางแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด จะลดความร้อนลงได้อย่างไรบาง ในงบประมาณที่พอรับได้ คุ้มค่าแก่การลงทุนเพียงใด อีกอย่างหนึ่งในมุมส่วนตัว หากว่าอุณหภูมิในบ้านนกตอนนี้อยู่ในระดับ 30-31 องศาผมว่านกยังยอมรับในส่วนนี้ได้ แต่หากว่าเลยไปถึง 32-33c อันนี้ผมว่าเสี่ยงไปหน่อยครับ อย่าได้นิ่งนอนใจเร่งหาสาเหตุ แล้วลงมือแก้ไขทันที หากว่าแก้ไขได้ ให้อุณหภูมิลดลงมาและไม่เกิน 28 องศา ผมมีความมั่นใจว่าบ้านนกของท่านจะมีนกแอ่นจำนวนมากเริ่มหมายตาบ้านนกของท่านไว้เป็นที่แน่นอน
ช่วงนี้เป็นช่วงที่วัดสีมือกัน ผมว่าสีมือไม่ผิดหรอกครับ หากว่ามือของท่านเปรอะเปื้อน เป็นสีดำ ผมว่าท่านกำลังทำในสิ่งที่สมควรจะทำ คือทำให้อุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพิ่มความชื้นในบ้านนกไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์ เพื่อให้นกแอ่นกินรังอันเป็นที่รักเราๆท่านๆ ได้มีสุขสบายในบ้านนกของเรา ไม่ใช่บ้านนกของเพื่อนบ้านเรานะครับ 55555
ช่วงนี้บรรดาเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ จำเป็นต้องงัดออกมา นำมาใช้กันเต็มที่เต็มสูบ ความรู้ต่างๆที่ได้เรียน ได้รู้มาตลอด ถึงเวลาที่จะต้องงัดออกมาโชว์ให้น้องนกดูฝีมือกันหน่อยครับ จัดการกันให้สุดฝีมือเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนอื่นใดผมขอแนะนำให้ท่านนำเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ตัวหลักๆ ออกมาตรวจสอบก่อนที่จะใช้ อย่าลืมการบำรุงรักษา ตรวจสภาพความพร้อมในการใช้งานด้วยนะ อย่าให้ Knock กลางคันนะ เดี่ยวจะหมดท่าอายน้องนก
อย่างที่ผมเคยพูดไว้ว่า การทำบ้านนกเป็นนั้น ศิลปะการบริหารซะมากกว่า หากว่าท่านบริหาร จัดการสิ่งที่ขัดแย้ง 2 อย่างนี้ได้เป็นอย่างดี ผลที่ออกมาย่อมดีด้วยเช่นกันครับ เมื่อทำเหตุให้ดีแล้ว-ผลที่ได้รับย่อมดีด้วยเช่นกัน หากว่าท่านทำดีที่สุดแล้ว ยังไม่สามารถลดอุณหภูมิลงมาได้ก็ให้ท่านสบายใจได้อยู่บ้าง ตามที่ผมได้จั่วหัวเรื่องเอาไว้ครับ " อดทนกันอีกสักนิด " เพราะว่าเมื่อผ่านจุดร้อนที่สุดไปได้แล้ว ทุกอย่างก็จะค่อยๆเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับๆครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ
Vuthmail-Thailand
12.04.53 - สงกรานต์ 53
เรื่องหนักอก หนักใจของทุกบ้านนกกันเลยก็ว่าได้ อุณหภูมิแกว่งมาก ความชื้นเข้าขั้นวิกฤติ เมื่อวานผมเข้าไปบ้านนก ผมวัดอุณหภูมิความชื้นที่ด้านนอกบ้านนก อุณหภูมิที่วัดได้ขึ้นไปถึง 36 องศา ความชื้นเห็นแล้วอยากร้องไห้เลย อยู่ที่ 38 Rh% เข้าขั้นวิกฤตกันเลยนะครับ ผมว่าที่อื่นๆก็ไม่ต่างไปจากนี้เท่าไหร่นะ จะสูงจะต่ำกว่ากันก็ต้องว่าไปตามตำแหน่งที่ตั้ง และภูมิศาสตร์ของแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ
สำหรับบ้านนกที่อยู่แถบรอบๆกรุงเทพ ต้องเหนื่อยกันแล้ว หาวิธีการป้องกัน อย่าให้ความร้อนขึ้น และยังต้องหาทางเพิ่มความชื้นที่วิกฤตนี้กันเต็มที่ อย่าให้หลุดเกณฑ์มาตราฐานกันมากเกินไปนะครับ
ส่วนคนที่อยู่ทางใต้ลึกลงไปก็มีปัญหาบ้าง แต่คงไม่สาหัสอย่างจังหวัดรอบๆกรุงเทพนะครับ แต่เรื่องความชื้นทางใต้ลึกลงไป หรือทางภาคตะวันออกความชื้นจะดีกว่ามาก เพราะได้รับอานิสงค์ของภูมิศาสตร์ที่ใกล้ทะเล มีทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ความชื้นใน Location เหล่านี้จะได้รับความชื้นจากน้ำทะเลที่ระเหยกลายเป็นไอน้ำ กลายเป็นความชื้นในบรรยากาศ อันเนื่องมาจากความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผาน้ำทะเล พร้อมทั้งลมที่พัดจะเป็นการช่วยเพิ่มความชื้นในบรรยายกาศให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บ้านนกทุกหลังก็ยังคงต้องทำการบ้านในการป้องกันความร้อนที่จะกระทบต่อบ้านนกของแต่ละท่านเช่นกัน อย่าประมาท เพราะว่านับวันอุณหภูมิก็จะยิ่งร้อนเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับหน้าร้อนนี้ คงต้องอดทนกันอีกนิดหน่อยนะครับ อีกประมาณ 4-5 วัน อุณหภูมิจะเริ่มลดลงแล้วนะครับหากว่าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะทรงๆอยู่อีกสักพักนะครับ แต่ไม่วิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ใน 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา การตรวจสอบอุณหภูมิ ภายนอกบ้านนก ภายในบ้าน ทั้งเช้า บ่าย เย็นหรือว่าค่ำ เพื่อให้เราทราบภาพรวม เพื่อใช้วางแนวทางในการแก้ไขอุณหภูมิความชื้นที่ยังไม่ถึงเกณฑ์สำหรับในการแก้ไขในอนาคตได้บ้าง
แต่ไม่ควรที่จะก้มหน้าก้มตาทำหรือแก้ไข จนให้เข้าสู่จุด Ideally โดยถือเกณฑ์ 25-27 องศาอย่างในหน้าฝน ผมว่าเป็นเรื่องที่ยากครับ แต่ว่าก็คงไม่อยากสักเท่าไหร่สำหรับคนที่อยู่ทางใต้ลึกลงไปหรือทางภาคตะวันออก แต่ผมไม่แนะนำระดับอุณหภูมิที่ 25 หรือต่ำกว่านี้ สำหรับบ้านนกทั่วไปคงทำได้ยากมากและหากว่าทำได้ก็ต้องลงทุนในระบบควบคุมกันเต็มที่ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุนสักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวผมแนะนำระดับอุณหภูมิที่ 28 องศา เพราะว่าอุณหภูมิระดับนี้จะช่วยแม่นกที่กกไข่จะฟักไข่ได้ง่ายกว่า มีโอกาสที่ไข่จะเสียเป็นไข่ลมจะน้อยกว่า เพราะว่าแม่นกจะต้องรักษาอุณหภูมิไข่ไว้ที่ระดับ 34 องศาโดยเฉลี่ย หากว่าแม่นกออกไปหาอาหารนาน ไข่ก็จะเสียความร้อนได้ และหากว่าเป็นอุณหภูมิที่ 25 องศา แม่นกต้องเริ่มต้นให้ความอบอุ่นกับไข่ใหม่เรื่อยๆ ทำให้มีโอกาสที่ไข่เสียจะง่ายกว่า
ในช่วงนี้ผมว่า สัตว์ทุกชนิดบนโลกนี้เค้าก็รู้ว่าเป็นหน้าร้อน จั๊กจั่นเริ่มร้อง สัญชาติญาณของสัตว์จะแม่นยำกว่ามนุษย์เรา นกแอ่นเริ่มต้องออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ เพราะว่าแสงสว่างมาเร็วขึ้น นกต้องเร่งไปหากิน ดังนั้นนกอีแอ่นก็คงเข้าใจ มีเหตุผลที่จะยอมรับระดับอุณหภูมิใน Nesting Room ที่สูงขึ้นกว่าปกติในช่วงนี้ได้
ผมแนะนำท่านเจ้าของบ้านนกว่าไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินไปนัก เราทำหน้าที่ของเราโดยการป้องกันความร้อนตามที่เราสามารถทำได้ นกอีแอ่นเค้าก็รู้หน้าที่ของเค้าว่าจะต้องยอมรับกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในหน้าร้อนที่กำลังเป็นอยู่ เรามีหน้าที่ในการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิสูงหรือลดอุณหภูมิให้ต่ำลง และเพิ่มความชื้นใน Nesting Room ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและจ่ายอย่างมีเหตุมีผล แต่ก่อนที่จะลงทุนควักเงินจ่ายเงิน ผมอยากให้ทุกๆท่าน ค้นหาให้พบสาเหตุที่แท้จริงของอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นให้เจอเสียก่อน เพราะว่าการออกแบบบ้านแตกต่างกัน เครื่องไม้เครื่องมือแตกต่างกัน ระบบการให้ความชื้นที่ต่างกัน ระบบการหมุนเวียนอากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นท่านต้องไปงัดแงะ ไปขุด ไปแกะ จนสามารถรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงให้ได้ อะไรที่เป็นจุดบอดต้องหาให้เจอ แล้วตั้งสมมุติฐานขึ้นมา และทดลองพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งขึ้นมา
หากว่าตั้งสมมุติฐานได้ถูกต้อง และทดลองแก้ไขปัญหาแล้ว อุณหภูมิลดลงได้มาก ในเวลาที่รวดเร็ว ความชื้นได้ระดับ แสดงว่าท่านเกาถูกที่คัน เจอปัญหาที่แท้จริง และแก้ได้ถูกจุดแล้ว แต่หากว่าอุณหภูมิลดลงช้าใช้เวลามาก แสดงยังเกาไม่ถูกที่คัน ไม่เจอตัวปัญหาที่แท้จริง แต่ก็มาถูกทางบ้างแล้ว
เพื่อนๆต้องเน้นหาจุดบอดของการ Block ความร้อนว่าเกิดจากอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง และจะหาทางแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด จะลดความร้อนลงได้อย่างไรบาง ในงบประมาณที่พอรับได้ คุ้มค่าแก่การลงทุนเพียงใด อีกอย่างหนึ่งในมุมส่วนตัว หากว่าอุณหภูมิในบ้านนกตอนนี้อยู่ในระดับ 30-31 องศาผมว่านกยังยอมรับในส่วนนี้ได้ แต่หากว่าเลยไปถึง 32-33c อันนี้ผมว่าเสี่ยงไปหน่อยครับ อย่าได้นิ่งนอนใจเร่งหาสาเหตุ แล้วลงมือแก้ไขทันที หากว่าแก้ไขได้ ให้อุณหภูมิลดลงมาและไม่เกิน 28 องศา ผมมีความมั่นใจว่าบ้านนกของท่านจะมีนกแอ่นจำนวนมากเริ่มหมายตาบ้านนกของท่านไว้เป็นที่แน่นอน
ช่วงนี้เป็นช่วงที่วัดสีมือกัน ผมว่าสีมือไม่ผิดหรอกครับ หากว่ามือของท่านเปรอะเปื้อน เป็นสีดำ ผมว่าท่านกำลังทำในสิ่งที่สมควรจะทำ คือทำให้อุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพิ่มความชื้นในบ้านนกไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์ เพื่อให้นกแอ่นกินรังอันเป็นที่รักเราๆท่านๆ ได้มีสุขสบายในบ้านนกของเรา ไม่ใช่บ้านนกของเพื่อนบ้านเรานะครับ 55555
ช่วงนี้บรรดาเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ จำเป็นต้องงัดออกมา นำมาใช้กันเต็มที่เต็มสูบ ความรู้ต่างๆที่ได้เรียน ได้รู้มาตลอด ถึงเวลาที่จะต้องงัดออกมาโชว์ให้น้องนกดูฝีมือกันหน่อยครับ จัดการกันให้สุดฝีมือเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนอื่นใดผมขอแนะนำให้ท่านนำเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ตัวหลักๆ ออกมาตรวจสอบก่อนที่จะใช้ อย่าลืมการบำรุงรักษา ตรวจสภาพความพร้อมในการใช้งานด้วยนะ อย่าให้ Knock กลางคันนะ เดี่ยวจะหมดท่าอายน้องนก
อย่างที่ผมเคยพูดไว้ว่า การทำบ้านนกเป็นนั้น ศิลปะการบริหารซะมากกว่า หากว่าท่านบริหาร จัดการสิ่งที่ขัดแย้ง 2 อย่างนี้ได้เป็นอย่างดี ผลที่ออกมาย่อมดีด้วยเช่นกันครับ เมื่อทำเหตุให้ดีแล้ว-ผลที่ได้รับย่อมดีด้วยเช่นกัน หากว่าท่านทำดีที่สุดแล้ว ยังไม่สามารถลดอุณหภูมิลงมาได้ก็ให้ท่านสบายใจได้อยู่บ้าง ตามที่ผมได้จั่วหัวเรื่องเอาไว้ครับ " อดทนกันอีกสักนิด " เพราะว่าเมื่อผ่านจุดร้อนที่สุดไปได้แล้ว ทุกอย่างก็จะค่อยๆเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับๆครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ
Vuthmail-Thailand
12.04.53 - สงกรานต์ 53
8/4/53
การปรับปรุงคุณภาพเสียงนกแอ่นกินรัง
ผมได้เรียนรู้ถึงอิทธิพลของเสียงที่มีต่อนกมานานหลายปีแล้ว และได้รู้ถึงความแตกต่างของเสียงที่มีคุณภาพและเสียงนกทั่วไป ว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ผมจึงเริ่มค้นหาแนวทางในการปรับปรุงสภาพเสียงด้วยตัวเองมาตลอดเวลาเกือบ 4 ปี ลองผิดลองถูก จนเข้าใจในหลักสำคัญๆที่นำมาใช้ได้ และได้ผลดีมากๆๆ อันเป็นเทคนิคเฉพาะตัวเฉพาะตนของผมเอง ( ขออนุญาติไม่กล่าวถึงครับ )
คุณภาพเสียงที่เปิดจากเสียงทั้ง 2 ประเภท คือเสียงที่ไม่ได้ปรับปรุงสภาพ กับเสียงที่มีการปรับสภาพเสียงแล้ว ผลลัพท์ที่ได้ก็จะมีความแตกต่างกันครับ ซึ่งเพื่อนๆคง ได้เห็น ได้ฟังไปบ้างแล้วในบทความก่อนๆๆ ความคมชัด ความใสของเสียง ดังนั้นเสียงที่ผมใช้ทุกเสียงผมจะต้องทำการปรับปรุงสภาพเสียงใหม่ก่อนทุกครั้ง ตาม Style ของผมเองเสียก่อน ฟังแล้ว ทดลองแล้ว จนมีความมั่นใจ จึงนำมารวบรวมเก็บไว้เป็น Collection ส่วนตัว
การที่ผมต้องปรับปรุงสภาพของเสียงก่อนนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เสียงเรียกนกของผม เหนือกว่า ดีกว่า เด่นกว่าเสียงบ้านนกหลังอื่นๆๆ และจะเป็นที่สนใจของนกได้ง่ายกว่า เร็วกว่า และนกเล่นเสียงได้นานกว่า เมื่อเทียบกับเสียงที่ไม่ได้ทำ Remaster หรือการปรับปรุงสภาพเสียง
ซึ่งเสียงใน VDO นี้เป็นเสียงที่เพื่อนชาวมาเลย์ ส่งมาให้ผมทำปรับปรุงสภาพเสียงใหม่ครับ เสียงนี้เห็นเค้าบอกว่าเป็นเสียงชื่อ เมฆ-ตำ ครับ ผมคิดว่าเพื่อนๆที่อยู่ในวงการบ้านนก โดยเฉพาะเพื่อนๆที่ดู Clip ต่างประเทศบ่อยๆ คงได้ผ่านหู ผ่านตามาบ้างแล้วนะครับ เรามาดูกันครับว่าเสียงที่ได้ปรับปรุงสภาพเสียง แล้วส่งกลับไปให้เพื่อนที่มาเลย์เปิดทดลองดูใหม่ เพื่อดูว่าคุณภาพของเสียงที่ได้ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง มีผลกับนกอย่างไรบ้าง
เสียงนี้ถูกเปิดอยู่ที่ชั้น 5 ของอาคาร ให้เพื่อนๆสังเกตุนะครับว่า
ใน Clip แรกถ่ายที่ใต้ตึกเลย จะมีเสียงรอบข้างปนเข้ามาบ้าง แต่คุณภาพเสียงจะคมกว่าเสียงใน Clip ที่ 2 เล็กน้อย หากว่ามองให้ลึกลงไปอีกนิดนะครับ ในเรื่องของระยะทางในการถ่าย Clip ที่ 2 ตำแหน่งที่ยืนถ่ายนั้น ห่างออกมาจากตำแหน่งเดิมมาก (สังเกตุมุมกล้องที่ไม่ต้องแหงนมาก) แต่ว่าเสียงซึ่งวิ่งไปในระยะไกลกว่าเดิมมากนี้ ไม่ได้ทำให้คุณภาพเสียงตกลงไปสักเท่าไหร่ เสียงนกยังฟังชัด ฟังได้ดีพอสมควร หากว่าไม่สังเกตุเรื่องนี้ก็จะไม่รู้ ไม่เข้าใจ อย่าดูผ่านๆ นะครับ
ใน Clip ที่ 2 เสียงนกที่เปิดอยู่นั้นราวเหมือนกับว่า อยู่ใกล้ๆกับจุดที่ยืนถ่าย VDO เลย โดยให้เทียบกับเสียงของเด็กที่พูดแทรกขึ้นมา ความคมชัดของเสียงนกที่เปิดจะมีความคมชัด และเสียงนกที่เปิดจะนิ่งมาก พริ้วน้อย สั่นน้อย ไม่แสบหูอย่างที่เปิดกันลั่นบ้านสนั่นเมืองกันอย่างที่เป็นอยู่ โดยเน้นการเปิดเสียงให้ดังๆๆไว้ก่อน เปิดเอาดังอย่างเดียวแต่ไม่มีคุณภาพ ผมเปิดเสียงให้ดังพอประมาณ แต่ไปเน้นที่คุณภาพของเสียงที่ออกไปมากกว่า และผลที่ได้ก็ดีกว่าด้วยครับ
Vuthmail-Thailand
08.04.53
คุณภาพเสียงที่เปิดจากเสียงทั้ง 2 ประเภท คือเสียงที่ไม่ได้ปรับปรุงสภาพ กับเสียงที่มีการปรับสภาพเสียงแล้ว ผลลัพท์ที่ได้ก็จะมีความแตกต่างกันครับ ซึ่งเพื่อนๆคง ได้เห็น ได้ฟังไปบ้างแล้วในบทความก่อนๆๆ ความคมชัด ความใสของเสียง ดังนั้นเสียงที่ผมใช้ทุกเสียงผมจะต้องทำการปรับปรุงสภาพเสียงใหม่ก่อนทุกครั้ง ตาม Style ของผมเองเสียก่อน ฟังแล้ว ทดลองแล้ว จนมีความมั่นใจ จึงนำมารวบรวมเก็บไว้เป็น Collection ส่วนตัว
การที่ผมต้องปรับปรุงสภาพของเสียงก่อนนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เสียงเรียกนกของผม เหนือกว่า ดีกว่า เด่นกว่าเสียงบ้านนกหลังอื่นๆๆ และจะเป็นที่สนใจของนกได้ง่ายกว่า เร็วกว่า และนกเล่นเสียงได้นานกว่า เมื่อเทียบกับเสียงที่ไม่ได้ทำ Remaster หรือการปรับปรุงสภาพเสียง
ซึ่งเสียงใน VDO นี้เป็นเสียงที่เพื่อนชาวมาเลย์ ส่งมาให้ผมทำปรับปรุงสภาพเสียงใหม่ครับ เสียงนี้เห็นเค้าบอกว่าเป็นเสียงชื่อ เมฆ-ตำ ครับ ผมคิดว่าเพื่อนๆที่อยู่ในวงการบ้านนก โดยเฉพาะเพื่อนๆที่ดู Clip ต่างประเทศบ่อยๆ คงได้ผ่านหู ผ่านตามาบ้างแล้วนะครับ เรามาดูกันครับว่าเสียงที่ได้ปรับปรุงสภาพเสียง แล้วส่งกลับไปให้เพื่อนที่มาเลย์เปิดทดลองดูใหม่ เพื่อดูว่าคุณภาพของเสียงที่ได้ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง มีผลกับนกอย่างไรบ้าง
เสียงนี้ถูกเปิดอยู่ที่ชั้น 5 ของอาคาร ให้เพื่อนๆสังเกตุนะครับว่า
ใน Clip แรกถ่ายที่ใต้ตึกเลย จะมีเสียงรอบข้างปนเข้ามาบ้าง แต่คุณภาพเสียงจะคมกว่าเสียงใน Clip ที่ 2 เล็กน้อย หากว่ามองให้ลึกลงไปอีกนิดนะครับ ในเรื่องของระยะทางในการถ่าย Clip ที่ 2 ตำแหน่งที่ยืนถ่ายนั้น ห่างออกมาจากตำแหน่งเดิมมาก (สังเกตุมุมกล้องที่ไม่ต้องแหงนมาก) แต่ว่าเสียงซึ่งวิ่งไปในระยะไกลกว่าเดิมมากนี้ ไม่ได้ทำให้คุณภาพเสียงตกลงไปสักเท่าไหร่ เสียงนกยังฟังชัด ฟังได้ดีพอสมควร หากว่าไม่สังเกตุเรื่องนี้ก็จะไม่รู้ ไม่เข้าใจ อย่าดูผ่านๆ นะครับ
ใน Clip ที่ 2 เสียงนกที่เปิดอยู่นั้นราวเหมือนกับว่า อยู่ใกล้ๆกับจุดที่ยืนถ่าย VDO เลย โดยให้เทียบกับเสียงของเด็กที่พูดแทรกขึ้นมา ความคมชัดของเสียงนกที่เปิดจะมีความคมชัด และเสียงนกที่เปิดจะนิ่งมาก พริ้วน้อย สั่นน้อย ไม่แสบหูอย่างที่เปิดกันลั่นบ้านสนั่นเมืองกันอย่างที่เป็นอยู่ โดยเน้นการเปิดเสียงให้ดังๆๆไว้ก่อน เปิดเอาดังอย่างเดียวแต่ไม่มีคุณภาพ ผมเปิดเสียงให้ดังพอประมาณ แต่ไปเน้นที่คุณภาพของเสียงที่ออกไปมากกว่า และผลที่ได้ก็ดีกว่าด้วยครับ
ดู VDO ซ้ำๆหลายๆรอบ แล้วตรวจสอบกับที่ผมบอก ก็จะเข้าใจ
Vuthmail-Thailand
08.04.53
1/4/53
เปิดตัว นาย Vuthmail-Thailand ครับ
ตามปกติการเข้าสู่ธุระกิจ ฟาร์มนกแอ่นกินรัง นี้จะมี 2 ลักษณะ
1.-สำหรับท่านที่หาความรู้เตรียมตัวกันมาอย่างค่อนข้างพร้อม มีการหาข้อมูลต่างๆ ทุกแง่ทุกมุม กันจนแน่ใจมั่นใจในวิชาความรู้ที่มีอยู่ ก็จะก้าวเข้ามาสู่ธุระกิจนี้ได้ไม่ยากลำบากนัก เพราะมีการเตรียมตัวไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว รู้ว่าจะต้องพบกับอะไรบ้าง พร้อมทั้งมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆไว้อยู่มือแล้ว จึงก้าวเข้ามาด้วยความมั่นใจและมั่นคง พอสมควร
2.-สำหรับท่านที่เข้ามาโดยไม่มีความรู้พื้นฐาน หรือพอมีความรู้บ้าง อันนี้แหละครับที่น่าเป็นห่วง เพราะการเข้ามาอาจเป็นเพราะทำตามเพื่อนบ้าน ทำความคำบอกเล่าของ Consultant ที่น่าเชื่อถือ หรืออะไรก็แล้วแต่ครับ สิ่งหนึ่งก็คือการที่ต้องฝากความหวังไว้กับคนอื่นๆที่ไม่ใช่ตัวท่านเองเป็นส่วนมาก และเมื่อลงทุนไปแล้ว เปิดตึกแล้ว มีทั้งที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ และของคู่กันก็คือการไม่ประสบความสำเร็จ อย่างแรกโชคดีไปครับ แต่อย่างหลังนี้ซิ จะทำกันอย่างไร ความรู้ก็ไม่มี ไปอย่างไม่มีทิศทาง ไปไม่ค่อยถูกแล้วครับ
เพราะว่าความไม่มีพื้นฐานแห่งความรู้ อันเป็นเหตุเป็นผลในเชิงวิทยาศาสตร์ ไม่เข้าใจถึงที่มาที่ไปของรายละเอียดต่างๆ ได้ยินใครว่าอะไรดี อะไรที่พอจะสามารถทำให้นกเข้าบ้านได้ก็เอาหมด บางครั้งดูไปก็เหมือนกันการยำใหญ่ ใส่ทุกอย่างที่เห็นเค้าทำแล้วได้ผลใส่เข้าไปทุกอย่าง แล้วผลที่ได้อาจจะไม่สวยงามตามที่คิดครับ
อีกอย่างนะครับ ผมเห็นว่าทุกวันนี้มันอะไรแปลกๆมากขึ้นๆทุกวัน ผมขอให้ท่านคิดอย่างเป็นระบบ ขอให้ท่านคิดอย่างมีเหตุมีผล มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับด้วยจะยิ่งดี ยิ่งมั่นใจ การเสพข้อมูลมากไปบางครั้งก็จะทำให้เราสับสนได้ แต่ความรู้ที่ถูกต้องจะนำเราออกจากความรู้ที่เป็นของลวงโลกได้ครับ
หลังจากผมเริ่มเขียน Blog มาระยะหนึ่งแล้ว ได้นำเอาความรู้ที่มี ที่สะสมมานำออกมาเผยแพร่ ทั้งถูกทั้งผิดออกมาให้เป็นแนวทางกับเพื่อนๆ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจใน อยู่ในระดับที่สูง ตลอดระยะเวลาร่วม 4 เดือนที่ผ่านมานี้ ผมมีเพื่อนมากชึ้นหลายคน มีทั้งคนที่ Email มาพูดคุยด้วย มีโทรศัพท์มาคุยบ้าง และ มีทั้งที่เข้ามาพบปะพูดคุยด้วยตัวเอง
ในขณะเดียวกันผมก็ได้รับทราบว่ามีบ้านนกอีกจำนวนมาก ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่บ้าง หรือเปิดบ้านมาได้
สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งบ้านนกหลังใหม่ๆที่เกิดขึ้นในระยะหลังๆนี้เกือบทุกหลังใช่ว่าจะประสบความสำเร็จกันได้ง่ายๆ เหมือนกับสมัยบ้านนกรุ่นบุกเบิกที่เป็นหลังแรกๆๆ เพราะว่าสมัยก่อนที่คนสร้างบ้านนกอยู่น้อย และทำกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น นกจึงไม่ค่อยมีทางเลือก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านนกหลังแรกๆ ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ส่วนความรู้วิชาการเฉพาะด้านยังไม่แพร่หลายกว้างขวางจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับในปัจจุบันนี้ที่มีคนเริ่มเข้ามาสู่วงการ การทำบ้านนกแอ่นกินรัง (Edible Swiftlet Nest) กันอย่างมากมาย และทำบ้านนกมากมายในอัตราการเกิดขึ้นของบ้านนกสูงขึ้นเป็น 200%-300% ดังนั้นนกจึงมีทางเลือกมากกว่าสมัยแรกๆๆ เมื่อมีบ้านนกกันอยู่มากมายอย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน จึงเริ่มมีบ้านนกที่ไม่ประสบความสำเร็จ นกไม่มาเล่น นกไม่อยู่ หรืออยู่แต่ก็ไม่ยอมทำรัง เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่สูงกว่าเดิมมาก ปัญหาซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมมีความยินดีมากในสิ่งที่ผมได้ทำอยู่ในขณะนี้ คือการนำความรู้ออกมาเผยแพร่ ได้ช่วยแก้ปัญหาของคนหลายๆคนแล้วก็ทราบว่า ยังมีความรู้ต่างๆที่ยังไม่ได้ถูกนำออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะชน อันเป็นความรู้เฉพาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ซึ่งเราๆท่านๆก็ยังต้องตั้งหาตั้งตาเรียนรู้กันต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุด นำความรู้เก่ามาขยาย เพื่อหาความรู้ใหม่ๆที่จะทำให้บ้านนกของทุกคนทุกท่านครองความเป็นหนึ่งได้อยู่ตลอดเวลา ผมเองก็เช่นกันครับ ต้องสารภาพกันอย่างตรงๆ ว่าผมก็ยังคงต้องดำเนินกันต่อไป
ผมอยากแนะนำให้ท่านยังไม่เข้าสูธุระกิจนี้ หรือคนที่ยังไม่มีความรู้ว่าท่านจะต้องมองใหม่คิดใหม่ต้องเริ่มด้วยการเรียนรู้ อ่านหนังสือมากๆๆ ดู Web ให้มาก หาความรู้ให้มากๆ อย่างที่เพื่อนๆหลายคนกำลังทำอยู่ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ เพราะว่าความรู้ที่มีจะเป็นเครื่องช่วยป้องกันความผิดพลาด และนำทางให้เรายามที่เราหลงทาง ความรู้ที่ดีจะนำพาเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆๆครับ เป็นการค้นพบเฉพาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนแต่ท่านล้วนแล้วแต่หวงแหนในความรู้เหล่านี้มาก เพราะเป็นการค้นพบที่ใช้งานได้จริง พิสูจน์ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว
เนื่องจากอุปนิสัยส่วนตัวของผม นั้นชอบทำการทดลองเอง จะว่าไปในอีกมุมก็คือไหว้วานใครไม่ค่อยขึ้นไหว้วานใครก็ไม่ได้เสียมากกว่า สุดท้ายก็คือต้องลงมือทำเองครับ นี่แหละครับขุมทรัพย์แห่งความรู้ อย่างที่ผมเกริ่นไว้นะแหละครับ ความรู้ที่ดีจะนำพาเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆๆครับ เป็นการค้นพบเฉพาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนแต่ท่านล้วนแล้วแต่หวงแหนในความรู้เหล่านี้มาก เพราะเป็นการค้นพบที่ใช้งานได้จริง พิสูจน์ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ใครบอกว่าไม่จริงเป็นไปไม่ได้ เค้าจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ครับ คนที่ทำ DIY พบอะไรใหม่ๆ อะไรที่ใช้ได้ผลแล้ว เค้านั่งกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ว่าเค้าทำได้จริง ผลลัพธ์ที่ออกมามันพิสูจน์ต้วเองอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้ใครต่อใครมาพิสูจน์แทนหรอกครับ
สำหรับบ้านนกของคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว ผมร่วมยินดี ร่วมดีใจด้วยครับ แต่สำหรับคนๆที่บ้านนกมีปัญหา ซึ่งปัญหาบ้านนกแต่ละหลังแต่ละกรณีก็จะแตกต่างกันไป ปัญหาน้อยบ้าง มากบ้างบางครั้งอาจจะมีปัญหาหลายอย่างรวมกัน ทำให้เรางง หากว่าเพื่อนๆที่มีปัญหาอยู่แก้ไขคนเดียวไม่ได้ และหากว่าไม่รังเกียจลอง Share ปัญหากับผมดู เพื่อว่าแนวทาง DIY ที่ผมเคยทำมาแล้วอาจจะช่วยแก้ปัญหาให้ท่านได้บ้าง
วันนี้ผมนั่งคิดอยู่กว่า 2 ช.ม.ว่าจะเปิดเผยตัวดีหรือไม่อย่างไร แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบลองอะไรใหม่ๆ จึงอยากจะทดลองวัดความสามารถของตัวเองว่าไปถึงไหนแล้ว จึงตัดสินใจที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับเพื่อนๆที่อยากพูดคุยปัญหาต่างๆลองโทรมาหาผมดูครับ
1.-สำหรับท่านที่หาความรู้เตรียมตัวกันมาอย่างค่อนข้างพร้อม มีการหาข้อมูลต่างๆ ทุกแง่ทุกมุม กันจนแน่ใจมั่นใจในวิชาความรู้ที่มีอยู่ ก็จะก้าวเข้ามาสู่ธุระกิจนี้ได้ไม่ยากลำบากนัก เพราะมีการเตรียมตัวไว้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว รู้ว่าจะต้องพบกับอะไรบ้าง พร้อมทั้งมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆไว้อยู่มือแล้ว จึงก้าวเข้ามาด้วยความมั่นใจและมั่นคง พอสมควร
2.-สำหรับท่านที่เข้ามาโดยไม่มีความรู้พื้นฐาน หรือพอมีความรู้บ้าง อันนี้แหละครับที่น่าเป็นห่วง เพราะการเข้ามาอาจเป็นเพราะทำตามเพื่อนบ้าน ทำความคำบอกเล่าของ Consultant ที่น่าเชื่อถือ หรืออะไรก็แล้วแต่ครับ สิ่งหนึ่งก็คือการที่ต้องฝากความหวังไว้กับคนอื่นๆที่ไม่ใช่ตัวท่านเองเป็นส่วนมาก และเมื่อลงทุนไปแล้ว เปิดตึกแล้ว มีทั้งที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ และของคู่กันก็คือการไม่ประสบความสำเร็จ อย่างแรกโชคดีไปครับ แต่อย่างหลังนี้ซิ จะทำกันอย่างไร ความรู้ก็ไม่มี ไปอย่างไม่มีทิศทาง ไปไม่ค่อยถูกแล้วครับ
เพราะว่าความไม่มีพื้นฐานแห่งความรู้ อันเป็นเหตุเป็นผลในเชิงวิทยาศาสตร์ ไม่เข้าใจถึงที่มาที่ไปของรายละเอียดต่างๆ ได้ยินใครว่าอะไรดี อะไรที่พอจะสามารถทำให้นกเข้าบ้านได้ก็เอาหมด บางครั้งดูไปก็เหมือนกันการยำใหญ่ ใส่ทุกอย่างที่เห็นเค้าทำแล้วได้ผลใส่เข้าไปทุกอย่าง แล้วผลที่ได้อาจจะไม่สวยงามตามที่คิดครับ
อีกอย่างนะครับ ผมเห็นว่าทุกวันนี้มันอะไรแปลกๆมากขึ้นๆทุกวัน ผมขอให้ท่านคิดอย่างเป็นระบบ ขอให้ท่านคิดอย่างมีเหตุมีผล มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับด้วยจะยิ่งดี ยิ่งมั่นใจ การเสพข้อมูลมากไปบางครั้งก็จะทำให้เราสับสนได้ แต่ความรู้ที่ถูกต้องจะนำเราออกจากความรู้ที่เป็นของลวงโลกได้ครับ
หลังจากผมเริ่มเขียน Blog มาระยะหนึ่งแล้ว ได้นำเอาความรู้ที่มี ที่สะสมมานำออกมาเผยแพร่ ทั้งถูกทั้งผิดออกมาให้เป็นแนวทางกับเพื่อนๆ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจใน อยู่ในระดับที่สูง ตลอดระยะเวลาร่วม 4 เดือนที่ผ่านมานี้ ผมมีเพื่อนมากชึ้นหลายคน มีทั้งคนที่ Email มาพูดคุยด้วย มีโทรศัพท์มาคุยบ้าง และ มีทั้งที่เข้ามาพบปะพูดคุยด้วยตัวเอง
ในขณะเดียวกันผมก็ได้รับทราบว่ามีบ้านนกอีกจำนวนมาก ที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่บ้าง หรือเปิดบ้านมาได้
สักระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งบ้านนกหลังใหม่ๆที่เกิดขึ้นในระยะหลังๆนี้เกือบทุกหลังใช่ว่าจะประสบความสำเร็จกันได้ง่ายๆ เหมือนกับสมัยบ้านนกรุ่นบุกเบิกที่เป็นหลังแรกๆๆ เพราะว่าสมัยก่อนที่คนสร้างบ้านนกอยู่น้อย และทำกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้น นกจึงไม่ค่อยมีทางเลือก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านนกหลังแรกๆ ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ส่วนความรู้วิชาการเฉพาะด้านยังไม่แพร่หลายกว้างขวางจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับในปัจจุบันนี้ที่มีคนเริ่มเข้ามาสู่วงการ การทำบ้านนกแอ่นกินรัง (Edible Swiftlet Nest) กันอย่างมากมาย และทำบ้านนกมากมายในอัตราการเกิดขึ้นของบ้านนกสูงขึ้นเป็น 200%-300% ดังนั้นนกจึงมีทางเลือกมากกว่าสมัยแรกๆๆ เมื่อมีบ้านนกกันอยู่มากมายอย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน จึงเริ่มมีบ้านนกที่ไม่ประสบความสำเร็จ นกไม่มาเล่น นกไม่อยู่ หรืออยู่แต่ก็ไม่ยอมทำรัง เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอัตราที่สูงกว่าเดิมมาก ปัญหาซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมมีความยินดีมากในสิ่งที่ผมได้ทำอยู่ในขณะนี้ คือการนำความรู้ออกมาเผยแพร่ ได้ช่วยแก้ปัญหาของคนหลายๆคนแล้วก็ทราบว่า ยังมีความรู้ต่างๆที่ยังไม่ได้ถูกนำออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะชน อันเป็นความรู้เฉพาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ซึ่งเราๆท่านๆก็ยังต้องตั้งหาตั้งตาเรียนรู้กันต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุด นำความรู้เก่ามาขยาย เพื่อหาความรู้ใหม่ๆที่จะทำให้บ้านนกของทุกคนทุกท่านครองความเป็นหนึ่งได้อยู่ตลอดเวลา ผมเองก็เช่นกันครับ ต้องสารภาพกันอย่างตรงๆ ว่าผมก็ยังคงต้องดำเนินกันต่อไป
ผมอยากแนะนำให้ท่านยังไม่เข้าสูธุระกิจนี้ หรือคนที่ยังไม่มีความรู้ว่าท่านจะต้องมองใหม่คิดใหม่ต้องเริ่มด้วยการเรียนรู้ อ่านหนังสือมากๆๆ ดู Web ให้มาก หาความรู้ให้มากๆ อย่างที่เพื่อนๆหลายคนกำลังทำอยู่ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ เพราะว่าความรู้ที่มีจะเป็นเครื่องช่วยป้องกันความผิดพลาด และนำทางให้เรายามที่เราหลงทาง ความรู้ที่ดีจะนำพาเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆๆครับ เป็นการค้นพบเฉพาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนแต่ท่านล้วนแล้วแต่หวงแหนในความรู้เหล่านี้มาก เพราะเป็นการค้นพบที่ใช้งานได้จริง พิสูจน์ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว
เนื่องจากอุปนิสัยส่วนตัวของผม นั้นชอบทำการทดลองเอง จะว่าไปในอีกมุมก็คือไหว้วานใครไม่ค่อยขึ้นไหว้วานใครก็ไม่ได้เสียมากกว่า สุดท้ายก็คือต้องลงมือทำเองครับ นี่แหละครับขุมทรัพย์แห่งความรู้ อย่างที่ผมเกริ่นไว้นะแหละครับ ความรู้ที่ดีจะนำพาเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆๆครับ เป็นการค้นพบเฉพาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนแต่ท่านล้วนแล้วแต่หวงแหนในความรู้เหล่านี้มาก เพราะเป็นการค้นพบที่ใช้งานได้จริง พิสูจน์ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ใครบอกว่าไม่จริงเป็นไปไม่ได้ เค้าจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ครับ คนที่ทำ DIY พบอะไรใหม่ๆ อะไรที่ใช้ได้ผลแล้ว เค้านั่งกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ว่าเค้าทำได้จริง ผลลัพธ์ที่ออกมามันพิสูจน์ต้วเองอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้ใครต่อใครมาพิสูจน์แทนหรอกครับ
สำหรับบ้านนกของคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว ผมร่วมยินดี ร่วมดีใจด้วยครับ แต่สำหรับคนๆที่บ้านนกมีปัญหา ซึ่งปัญหาบ้านนกแต่ละหลังแต่ละกรณีก็จะแตกต่างกันไป ปัญหาน้อยบ้าง มากบ้างบางครั้งอาจจะมีปัญหาหลายอย่างรวมกัน ทำให้เรางง หากว่าเพื่อนๆที่มีปัญหาอยู่แก้ไขคนเดียวไม่ได้ และหากว่าไม่รังเกียจลอง Share ปัญหากับผมดู เพื่อว่าแนวทาง DIY ที่ผมเคยทำมาแล้วอาจจะช่วยแก้ปัญหาให้ท่านได้บ้าง
วันนี้ผมนั่งคิดอยู่กว่า 2 ช.ม.ว่าจะเปิดเผยตัวดีหรือไม่อย่างไร แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบลองอะไรใหม่ๆ จึงอยากจะทดลองวัดความสามารถของตัวเองว่าไปถึงไหนแล้ว จึงตัดสินใจที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับเพื่อนๆที่อยากพูดคุยปัญหาต่างๆลองโทรมาหาผมดูครับ
ผมนาย สราวุธ สุรินทร์รัฐ โทรศัพท์ 081-318-1361
Vuthmail-Thailand
01.04.53
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)