ช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี เป็นความทุกข๋ของท่านที่ทำบ้านนกนะครับ
เรื่องหนักอก หนักใจของทุกบ้านนกกันเลยก็ว่าได้ อุณหภูมิแกว่งมาก ความชื้นเข้าขั้นวิกฤติ เมื่อวานผมเข้าไปบ้านนก ผมวัดอุณหภูมิความชื้นที่ด้านนอกบ้านนก อุณหภูมิที่วัดได้ขึ้นไปถึง 36 องศา ความชื้นเห็นแล้วอยากร้องไห้เลย อยู่ที่ 38 Rh% เข้าขั้นวิกฤตกันเลยนะครับ ผมว่าที่อื่นๆก็ไม่ต่างไปจากนี้เท่าไหร่นะ จะสูงจะต่ำกว่ากันก็ต้องว่าไปตามตำแหน่งที่ตั้ง และภูมิศาสตร์ของแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ
สำหรับบ้านนกที่อยู่แถบรอบๆกรุงเทพ ต้องเหนื่อยกันแล้ว หาวิธีการป้องกัน อย่าให้ความร้อนขึ้น และยังต้องหาทางเพิ่มความชื้นที่วิกฤตนี้กันเต็มที่ อย่าให้หลุดเกณฑ์มาตราฐานกันมากเกินไปนะครับ
ส่วนคนที่อยู่ทางใต้ลึกลงไปก็มีปัญหาบ้าง แต่คงไม่สาหัสอย่างจังหวัดรอบๆกรุงเทพนะครับ แต่เรื่องความชื้นทางใต้ลึกลงไป หรือทางภาคตะวันออกความชื้นจะดีกว่ามาก เพราะได้รับอานิสงค์ของภูมิศาสตร์ที่ใกล้ทะเล มีทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ความชื้นใน Location เหล่านี้จะได้รับความชื้นจากน้ำทะเลที่ระเหยกลายเป็นไอน้ำ กลายเป็นความชื้นในบรรยากาศ อันเนื่องมาจากความร้อนจากแสงแดดที่แผดเผาน้ำทะเล พร้อมทั้งลมที่พัดจะเป็นการช่วยเพิ่มความชื้นในบรรยายกาศให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บ้านนกทุกหลังก็ยังคงต้องทำการบ้านในการป้องกันความร้อนที่จะกระทบต่อบ้านนกของแต่ละท่านเช่นกัน อย่าประมาท เพราะว่านับวันอุณหภูมิก็จะยิ่งร้อนเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับหน้าร้อนนี้ คงต้องอดทนกันอีกนิดหน่อยนะครับ อีกประมาณ 4-5 วัน อุณหภูมิจะเริ่มลดลงแล้วนะครับหากว่าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะทรงๆอยู่อีกสักพักนะครับ แต่ไม่วิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ใน 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา การตรวจสอบอุณหภูมิ ภายนอกบ้านนก ภายในบ้าน ทั้งเช้า บ่าย เย็นหรือว่าค่ำ เพื่อให้เราทราบภาพรวม เพื่อใช้วางแนวทางในการแก้ไขอุณหภูมิความชื้นที่ยังไม่ถึงเกณฑ์สำหรับในการแก้ไขในอนาคตได้บ้าง
แต่ไม่ควรที่จะก้มหน้าก้มตาทำหรือแก้ไข จนให้เข้าสู่จุด Ideally โดยถือเกณฑ์ 25-27 องศาอย่างในหน้าฝน ผมว่าเป็นเรื่องที่ยากครับ แต่ว่าก็คงไม่อยากสักเท่าไหร่สำหรับคนที่อยู่ทางใต้ลึกลงไปหรือทางภาคตะวันออก แต่ผมไม่แนะนำระดับอุณหภูมิที่ 25 หรือต่ำกว่านี้ สำหรับบ้านนกทั่วไปคงทำได้ยากมากและหากว่าทำได้ก็ต้องลงทุนในระบบควบคุมกันเต็มที่ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับการลงทุนสักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวผมแนะนำระดับอุณหภูมิที่ 28 องศา เพราะว่าอุณหภูมิระดับนี้จะช่วยแม่นกที่กกไข่จะฟักไข่ได้ง่ายกว่า มีโอกาสที่ไข่จะเสียเป็นไข่ลมจะน้อยกว่า เพราะว่าแม่นกจะต้องรักษาอุณหภูมิไข่ไว้ที่ระดับ 34 องศาโดยเฉลี่ย หากว่าแม่นกออกไปหาอาหารนาน ไข่ก็จะเสียความร้อนได้ และหากว่าเป็นอุณหภูมิที่ 25 องศา แม่นกต้องเริ่มต้นให้ความอบอุ่นกับไข่ใหม่เรื่อยๆ ทำให้มีโอกาสที่ไข่เสียจะง่ายกว่า
ในช่วงนี้ผมว่า สัตว์ทุกชนิดบนโลกนี้เค้าก็รู้ว่าเป็นหน้าร้อน จั๊กจั่นเริ่มร้อง สัญชาติญาณของสัตว์จะแม่นยำกว่ามนุษย์เรา นกแอ่นเริ่มต้องออกจากบ้านเช้ากว่าปกติ เพราะว่าแสงสว่างมาเร็วขึ้น นกต้องเร่งไปหากิน ดังนั้นนกอีแอ่นก็คงเข้าใจ มีเหตุผลที่จะยอมรับระดับอุณหภูมิใน Nesting Room ที่สูงขึ้นกว่าปกติในช่วงนี้ได้
ผมแนะนำท่านเจ้าของบ้านนกว่าไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นจนเกินไปนัก เราทำหน้าที่ของเราโดยการป้องกันความร้อนตามที่เราสามารถทำได้ นกอีแอ่นเค้าก็รู้หน้าที่ของเค้าว่าจะต้องยอมรับกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในหน้าร้อนที่กำลังเป็นอยู่ เรามีหน้าที่ในการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิสูงหรือลดอุณหภูมิให้ต่ำลง และเพิ่มความชื้นใน Nesting Room ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและจ่ายอย่างมีเหตุมีผล แต่ก่อนที่จะลงทุนควักเงินจ่ายเงิน ผมอยากให้ทุกๆท่าน ค้นหาให้พบสาเหตุที่แท้จริงของอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นให้เจอเสียก่อน เพราะว่าการออกแบบบ้านแตกต่างกัน เครื่องไม้เครื่องมือแตกต่างกัน ระบบการให้ความชื้นที่ต่างกัน ระบบการหมุนเวียนอากาศที่แตกต่างกัน ดังนั้นท่านต้องไปงัดแงะ ไปขุด ไปแกะ จนสามารถรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงให้ได้ อะไรที่เป็นจุดบอดต้องหาให้เจอ แล้วตั้งสมมุติฐานขึ้นมา และทดลองพิสูจน์สมมุติฐานที่ตั้งขึ้นมา
หากว่าตั้งสมมุติฐานได้ถูกต้อง และทดลองแก้ไขปัญหาแล้ว อุณหภูมิลดลงได้มาก ในเวลาที่รวดเร็ว ความชื้นได้ระดับ แสดงว่าท่านเกาถูกที่คัน เจอปัญหาที่แท้จริง และแก้ได้ถูกจุดแล้ว แต่หากว่าอุณหภูมิลดลงช้าใช้เวลามาก แสดงยังเกาไม่ถูกที่คัน ไม่เจอตัวปัญหาที่แท้จริง แต่ก็มาถูกทางบ้างแล้ว
เพื่อนๆต้องเน้นหาจุดบอดของการ Block ความร้อนว่าเกิดจากอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง และจะหาทางแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด จะลดความร้อนลงได้อย่างไรบาง ในงบประมาณที่พอรับได้ คุ้มค่าแก่การลงทุนเพียงใด อีกอย่างหนึ่งในมุมส่วนตัว หากว่าอุณหภูมิในบ้านนกตอนนี้อยู่ในระดับ 30-31 องศาผมว่านกยังยอมรับในส่วนนี้ได้ แต่หากว่าเลยไปถึง 32-33c อันนี้ผมว่าเสี่ยงไปหน่อยครับ อย่าได้นิ่งนอนใจเร่งหาสาเหตุ แล้วลงมือแก้ไขทันที หากว่าแก้ไขได้ ให้อุณหภูมิลดลงมาและไม่เกิน 28 องศา ผมมีความมั่นใจว่าบ้านนกของท่านจะมีนกแอ่นจำนวนมากเริ่มหมายตาบ้านนกของท่านไว้เป็นที่แน่นอน
ช่วงนี้เป็นช่วงที่วัดสีมือกัน ผมว่าสีมือไม่ผิดหรอกครับ หากว่ามือของท่านเปรอะเปื้อน เป็นสีดำ ผมว่าท่านกำลังทำในสิ่งที่สมควรจะทำ คือทำให้อุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพิ่มความชื้นในบ้านนกไม่ให้ต่ำกว่าเกณฑ์ เพื่อให้นกแอ่นกินรังอันเป็นที่รักเราๆท่านๆ ได้มีสุขสบายในบ้านนกของเรา ไม่ใช่บ้านนกของเพื่อนบ้านเรานะครับ 55555
ช่วงนี้บรรดาเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ จำเป็นต้องงัดออกมา นำมาใช้กันเต็มที่เต็มสูบ ความรู้ต่างๆที่ได้เรียน ได้รู้มาตลอด ถึงเวลาที่จะต้องงัดออกมาโชว์ให้น้องนกดูฝีมือกันหน่อยครับ จัดการกันให้สุดฝีมือเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนอื่นใดผมขอแนะนำให้ท่านนำเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ตัวหลักๆ ออกมาตรวจสอบก่อนที่จะใช้ อย่าลืมการบำรุงรักษา ตรวจสภาพความพร้อมในการใช้งานด้วยนะ อย่าให้ Knock กลางคันนะ เดี่ยวจะหมดท่าอายน้องนก
อย่างที่ผมเคยพูดไว้ว่า การทำบ้านนกเป็นนั้น ศิลปะการบริหารซะมากกว่า หากว่าท่านบริหาร จัดการสิ่งที่ขัดแย้ง 2 อย่างนี้ได้เป็นอย่างดี ผลที่ออกมาย่อมดีด้วยเช่นกันครับ เมื่อทำเหตุให้ดีแล้ว-ผลที่ได้รับย่อมดีด้วยเช่นกัน หากว่าท่านทำดีที่สุดแล้ว ยังไม่สามารถลดอุณหภูมิลงมาได้ก็ให้ท่านสบายใจได้อยู่บ้าง ตามที่ผมได้จั่วหัวเรื่องเอาไว้ครับ " อดทนกันอีกสักนิด " เพราะว่าเมื่อผ่านจุดร้อนที่สุดไปได้แล้ว ทุกอย่างก็จะค่อยๆเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับๆครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ
Vuthmail-Thailand
12.04.53 - สงกรานต์ 53
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น